ศบค. เข้มตรวจสอบการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยว ต้องครอบคลุมกรณีหากเกิดการติดเชื้อต้องอยู่รักษาตัวที่เมืองไทย ให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ ไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขไทย
วันนี้ (3 ก.พ. 65) เวลา 12.30 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีสังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวถึงกรณีการลงทะเบียน Test & Go อนุญาตให้ลงทะเบียนเริ่มต้น 1 ก.พ. โดยเน้นย้ำนักท่องเที่ยว หรือคนไทยที่เดินทางกลับไทย จะต้องลงทะเบียนและให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคตรวจสอบเอกสารหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส จากนั้น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าโรงแรมและที่พัก โดยเลือกโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ [โรงแรม SHA++(SHA Extra Plus)] นอกจากนี้ ในเรื่องของผลตรวจ RT-PCR ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ต้องมีเอกสารจริงยืนยันการตรวจที่มีมาตรฐาน ซึ่งต้องใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ หากนักท่องเที่ยวต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ www.consular.mfa.go.th โดยขอให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในข้อปฏิบัติให้ถูกต้อง หากมีการทำผิด จะมีกระบวนการทางกฎหมายมีบทลงโทษที่ชัดเจน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า จะมีการทบทวนประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยว โดยจะมีหลักการใหม่ ให้มีการตรวจสอบการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดมากขึ้น ให้เป็นประกันสุขภาพที่ครอบคลุมกรณีเกิดการติดเชื้อแล้วทำให้ต้องอยู่รักษาที่เมืองไทยต่อ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ และไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขของไทยด้วย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า จะมีการทบทวนประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยว โดยจะมีหลักการใหม่ ให้มีการตรวจสอบการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดมากขึ้น ให้เป็นประกันสุขภาพที่ครอบคลุมกรณีเกิดการติดเชื้อแล้วทำให้ต้องอยู่รักษาที่เมืองไทยต่อ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ และไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขของไทยด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaigov.go.th