วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567

รู้งี้ทำนานแล้ว! แค่วาง "พริกไทย" ไว้ใต้เตียง เคล็ดลับราคาถูก แต่ได้มากกว่าไล่แมลง

 

รู้หรือไม่? "พริกไทย" ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องเทศเท่านั้น แค่วางหนึ่งกำมือไว้ใต้เตียง ขจัดสารพัดปัญหากวนใจ ช่วยมากกว่าแค่ไล่แมลง

พริกไทย มีกลิ่นหอม รสเผ็ดเล็กน้อย และเป็นเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้ในอาหารหลายจาน อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการใช้ประกอบอาหารแล้ว รู้หรือไม่ว่ายังสามารถสร้างประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างที่ทำได้ง่ายๆ เช่น เพียงแค่นำพริกไทยหนึ่งกำมือไปวางไว้ใต้เตียง ก็สามารถขจัดปัญหากวนใจในบ้างได้มากมาย ทั้งไล่แมลง และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

การวางพริกไทยไว้ใต้เตียงส่งผลอย่างไร?

ใต้เตียงเป็นจุดที่มีสิ่งสกปรกสะสมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังอับชื้นและมีกลิ่นเหม็นได้ง่าย แม้ว่าเราจะนอนบนเตียงทุกคืน และตื่นขึ้นมาจัดเก็บผ้าปูบนเตียงในทุกเช้า แต่แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ได้ทำความสะอาดใต้เตียงเป็นประจำทุกวัน เพราะต้องใช้เวลาและเรี่ยวแรงมากกว่า จนทำให้บางครั้งใต้เตียงจึงกลายเป็นแหล่งอาศัยแมลง

ไล่แมลง ประโยชน์ของพริกไทยประการหนึ่งคือสามารถไล่แมลงได้ พริกไทยมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมีประสิทธิภาพในการไล่แมลงได้ดีเยี่ยมมากๆ เมื่อทิ้งพริกไทยไว้ใต้เตียงจะส่งผลให้แมลงต่างๆ เช่น แมลงสาบ แมลงวัน และยุง ไม่กล้าเข้ามาในบริเวณโดยรอบ

ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมล็ดพริกไทยมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยขจัดกลิ่นอับและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ บริเวณเตียงนอน ทำให้สถานที่สำหรับนอนหลับพักผ่อนมีกลิ่นหอมและสะอาดอยู่เสมอ

ดังนั้น จึงมีเคล็ดลับการใช้ "พริกไทย" มาแนะนำ เพื่อช่วยให้สร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด และรู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้นขณะนอนหลับพักผ่อน

วางพริกไทยไว้ใต้เตียง มีวิธีการแสนง่าย ดังนี้

โดยต้องเตรียมพริกไทยแห้งหนึ่งกำมือที่คั่วจนมีกลิ่นหอม นำมาใส่ถุงที่สามารถระบายอากาศได้ เช่น ถุงตาข่าย, ถุงใส่การบูร หรือจะใช้วิธีเจาะรูเล็กๆ บนถุงพลาสติกก็ได้ แต่ต้องแน่ใจว่าพริกไทยจะไม่หลุดออกมาเลอะเทอะพื้นห้อง เนื่องจากพริกไทยมีขนาดค่อนข้างเล็กมาก

ในกรณีที่ไม่มีถุงจริงๆ ก็สามารถใช้หน้ากากอนามัยแทนได้ ใช้กรรไกรตัดปลายด้านหนึ่งของหน้ากากออก เทพริกไทยเข้าไปข้างในแล้วมัดปลายที่ตัดไว้ให้แน่นอีกครั้ง

จากนั้นเพียงแค่นำไปวางไว้ใต้เตียง หรือในบริเวณใกล้เตียงก็ได้ และอย่าลืมตรวจสอบถุงพริกไทยใต้เตียงเป็นประจำ เพื่อเปลี่ยนถุงใหม่หากพบว่าชื้น หรือไม่มีกลิ่นพริกไทยอีกต่อไปแล้ว

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล https://www.sanook.com/news/9316302/

หลากวิธีแก้ “ท่อตัน” จากของใช้ในบ้าน ทั้งง่ายและประหยัดสุด ๆ

 


    “ท่อตัน” ปัญหาสุดปวดหัวของเหล่าพ่อ
บ้าน แม่บ้าน ที่เชื่อว่าต้องประสบพบเจอแทบทุกหลัง ไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์คอนโด และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์มักล่องลอยในอากาศชวนเหม็นคลุ้งไปทั่ว หรืออาจเจอน้ำเอ่อล้นออกมาอ่างล้างจานได้

1. เบกกิ้งโซดา สุดยอดเครื่องมือแก้ท่อตัน

ใครที่ชอบทำเบเกอรี่ มักคุ้นเคยกันดีกับเบกกิ้งโซดา ซึ่งมีลักษณะเป็นผลสีขาวคล้ายแป้ง และใช่ว่าจะสามารถทำขนมได้อย่างเดียว สามารถนำมาแก้ปัญหาท่อตันได้อย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่าง เพียงเทลงไปในท่อที่ตัน แล้วเติมน้ำร้อนตาม ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อรอทำปฏิกริยา เพียงเท่านี้ก็ไร้ปัญหาท่อตันแล้ว แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายเหมือนสารเคมีที่นิยมใช้กันทั่วไป อย่างโซดาไฟ

 2. เพิ่มประสิทธิภาพแก้ท่อตัน เบกกิ้งโซดา+น้ำมะนาว

วิธีนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้เบกกิ้งโซดา โดยใช้น้ำมะนาว ที่มีคุณสมบัติกรด ช่วยในการย่อยสลายบรรดาเศษอาหารหรือคราบไขมันที่ติดอยู่ในท่อได้ดี เริ่มจากนำเบกกิ้งโซดาเทลงไปประมาณครึ่งถ้วย จากนั้นผสมด้วยน้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง คนให้เข้ากันแล้วเทลงไปในท่อตัน หลังจากนั้นรอทำปฏิกริยาประมาณ 2 นาที แล้วเติมน้ำร้อนลงไป แค่นี้ท่อก็สะอาดโล่ง น้ำไหลสะดวกแล้ว

 3. เกลือ + น้ำส้มสายชู สูตรสำเร็จแก้ท่อตัน

มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอน เป็นสูตรของเหล่าวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ได้แก่ เกลือและน้ำส้มสายชู โดยให้ตวงเกลือประมาณครึ่งถ้วย ตามด้วยน้ำส้มสายชูอีก 1 ถ้วย หลังจากนั้นผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในท่อตัน พร้อมรอการทำปฏิกริยาประมาณ 3-5 นาที จากนั้นรอคอยผลลัพธ์สุดทึ่ง

นอกจากท่อหายตันแล้ว ยังทำให้อ่างล้างจานขาวสะอาดอีกด้วย หากใครอยากนำสูตรดังกล่าวไปทำความสะอาดของใช้ที่เป็นสแตนเลส รับรองว่ายืดอายุการใช้งานได้ดีทีเดียว เรียกว่าได้ประโยชน์สองเด้งเลยทีเดียว

4. น้ำร้อน + เกลือ อีกหนึ่งสูตรแก้ท่อตัน 

เป็นอีกหนึ่งสูตรของการแก้ปัญหาท่อตัน ที่แสนง่ายและไม่ต้องเสียเวลาออกไปหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก เพียงนำเกลือปรุงรส แน่นอนว่าทุกบ้านมีติดครัวไว้อยู่แล้ว มาปฏิบัติการทะลวงท่อตัน ด้วยการเทเกลือลงไปในท่อในปริมาณ 1 ถ้วยตวง หลังจากเทน้ำร้อนเดือด ๆ ลงไป แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เท่านี้ท่อก็หายตันแล้ว

5. น้ำหมักชีวภาพ แก้ท่อตันแบบดีต่อสิ่งแวดล้อม

น้ำหมักชีวภาพ มีคุณสมบัติมากมาย หลายด้าน แต่ที่เหมาะกับแม่บ้าน พ่อบ้าน คงหนีไม่พ้นการปรับสภาพของเสีย พวกเศษขยะ เศษอาหารที่ต่างตกค้างในท่อน้ำทิ้ง รวมทั้งยังสามารถย่อยสลายขยะได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่สมาชิกในครอบครัว เพราะส่วนใหญ่สารเคมีจากน้ำยาแก้ปัญหาท่อตัน จะมีกลิ่นเหม็นและความเป็นกรดค่อนข้างสูง

ดังนั้น การแก้ปัญหาท่อตัน ด้วยน้ำหมักชีวภาพจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงเทลงไปในท่อ และทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เท่านี้กรดจากน้ำหมักจะย่อยสลายเศษอาหาร รวมถึงคราบไขมันที่เกาะในท่อได้อย่างหมดจด ทำให้น้ำไหลลงท่อน้ำทิ้งได้สะดวก

ข้อควรระวังเพื่อไม่ให้ปัญหา “ท่อตัน” เรื้อรังกลับมา

แม้จะมีหนทางแก้ปัญหาท่อตันหลากหลายวิธี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหล่าพ่อบ้าน แม่บ้าน หรือสมาชิกในครอบครัว ต่างต้องใส่ใจในการดูแลเบื้องต้นเป็นสำคัญ ก่อนล้างจานจำเป็นต้องกวาดเศษอาหารออกให้หมดก่อน หรือนำตะแกรงมาช่วยกรองอีกชั้นในระหว่างล้างจาน ยิ่งไปกว่านั้นไม่ควรเทน้ำมันหรือคราบไขมันสัตว์ลงในท่อ เพราะจะยิ่งทำให้ท่อตันเป็นทวีคูณ และกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ต้องแก้ไขอยู่ตลอด

จะเห็นได้ว่าหลังจากซื้อบ้านหลังงามไปแล้ว ใช่ว่าจะคำนึงแต่เรื่องการตกแต่งอย่างเดียว เรื่องระบบท่อก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ของบ้าน


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.sanook.com/women/217249/

แจกทริค ไล่แมลงสาบไม่ให้มากวนใจ ด้วยของใช้ในบ้าน

 


วม 5 วิธีไล่แมลงสาบอย่างง่าย ไร้สารเคมี

1.ลูกเหม็นไล่แมลงสาบ

ลูกเหม็นตัวช่วยชิ้นสำคัญที่หลาย ๆ บ้าน ต้องนึกถึง เพราะนอกจากจะมีราคาที่ไม่แพงแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงสาบหรือมดให้หมดไปได้อย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากแมลงสาบนั้นมีความสามารถในการรับกลิ่นได้ดี ด้วยสรรพคุณของลูกเหม็นที่มีกลิ่นฉุน รบกวนจมูกของแมลงสาบ ทำให้แมลงสาบไม่กลับมายังบริเวณที่มีลูกเหม็นอีกเลย

2.น้ำยาปรับผ้านุ่มไล่แมลงสาบ

กลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้าหนุ่ม ถือเป็นสิ่งที่แมลงสาบไม่ชอบเอาเสียเลย เพียงแค่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำไปฉีดพ่นตามจุดต่าง ๆ เช่น ภายในห้องนอน ตู้เสื้อผ้า กลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยให้แมลงสาบหนีออกจากตู้เสื้อผ้า และห้องนอนได้โดยไม่ต้องออกแรง เพราะกลิ่นหอม คือจุดอ่อนของแมลงสาบตัวเล็กตัวน้อย

3.เปลือกส้ม เปลือกมะนาว

แมลงสาบเกลียดกลิ่นผลไม้เปรี้ยวเป็นที่สุด เทคนิคนี้เพียงปั่นเปลือกส้มและเปลือกมะนาวกับน้ำ แล้วนำไปฉีดหรือราดบริเวณที่พบแมลงสาบเป็นประจำก็จะช่วยกำจัดแมลงสาบได้เป็นอย่างดี หรือจะนำเปลือกส้มและเปลือกมะนาวใส่จานหรือชามแล้ววางไว้ตามจุดต่าง ๆ อย่างห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ก็เป็นวิธีกําจัดแมลงสาบในห้องนอนได้ ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในห้อง ทำให้รู้สึกสดชื่นอีกด้วย

4.เบกกิ้งโซดา ของใช้สารพัดประโยชน์

เบกกิ้งโซดา คือ ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่หาได้ภายในห้องครัว เพียงแค่ผสมเบกกิ้งโซดา กับน้ำตาลลงในน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แล้วนำใส่ภาชนะไปวางตั้งไว้ในจุดที่พบเห็นแมลงสาบอยู่บ่อย ๆน้ำตาลจะเป็นตัวดึงดูดแมลงสาบตัวเล็กให้มากินส่วนผสมที่เราทำไว้ แต่เมื่อกินเข้าไปแล้ว เบกกิ้งโซดาที่ผสมกับน้ำจะทำให้เกิดแก็สในกระเพาะ จุกเสียดจนแมลงสาบขาดอากาศหายใจในที่สุด

5.กากกาแฟคือกับดักชั้นยอด

เป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับทำกับดักแมลงสาบง่าย ๆ ที่บ้านเพียงแค่ผสมกาแฟ กับน้ำเปล่าใส่ลงในขวดโหล แล้ววางตั้งทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ประมาณ 1 คืน เช้ามาก็จะได้เห็นผลลัพธ์ เมื่อแมลงสาบได้กลิ่นและเดินเข้าไปในขวดโหลก็จะตายทันที

สำหรับแม่บ้านคนไหนที่กำลังประสบปัญหาแมลงสาบกวนใจ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปทดลองใช้กันนะคะ และที่สำคัญที่สุด คือต้องหมั่นทำความสะอาดบ้านด้วย จะได้ไม่ต้องนั่งปวดหัวกับการกำจัดแมลงสาบที่อาจจะยากกว่าการทำความสะอาดบ้าน

ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.sanook.com/

เคล็ดไม่ลับ 7 เทคนิคซักผ้าให้ แห้งไว ไร้กลิ่นอับ

 


7 เทคนิคซักผ้าหน้าฝนให้แห้งไวไร้กลิ่นอับ ไปดูกันเลย!!

1.เช็กสภาพอากาศก่อนซัก

การเช็กสภาพอากาศก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่าวันนี้จะซักผ้าดีไหม เพราะหากไม่เช็กก่อนเราอาจจะเจอกับเหตุการณ์เอาผ้าลงเครื่องปุ๊บ ฝนตกปั๊บก็เป็นได้และนั่นก็นำมาสู่ปัญหาทำให้ผ้าเหม็นอับหรือแห้งไม่ทันใช้งาน ฉะนั้นแล้วถ้าไม่อยากกุมขมับกับปัญหานี้ ก่อนซักผ้าก็ให้ลองเช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนว่าเปอร์เซ็นต์ที่ฝนจะตกมีมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าที่ซักมานั้นตากได้อย่างสบายใจไร้กลิ่นอับแน่นอน

2.ปริมาณผ้าต้องเหมาะสมกับความจุของเครื่องซักผ้า

หากใส่ผ้าลงถังในปริมาณที่มากเกินกว่าที่เครื่องซักผ้ากำหนดอาจทำให้เครื่องซักผ้าไม่สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าของคุณได้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้เสื้อผ้ายังมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ รวมไปถึงทำให้มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ที่เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอีกด้วย

ทางที่ดีคือพยายามใส่ผ้าไม่ให้เกินครึ่งถัง หรือ 3/4 ของถัง ทำให้เวลาซักผ้าแต่ละครั้ง ผ้าก็จะไม่แน่น มีพื้นที่ในเครื่องมากขึ้น เสื้อผ้าก็จะสะอาดหมดจด ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องซักผ้าจะพังไวอีกด้วย

3.ใส่ผ้าขนหนูลงไปในถังขณะปั่นผ้า

ทริคที่แม่บ้านมืออาชีพแทบทุกคนมักจะทำ คือการใส่ผ้าขนหนูลงไปในถังขณะปั่นผ้า เพราะการใส่ผ้าขนหนูลงไปในขั้นตอนปั่นหมาดผ้าขนหนูจะช่วยดูดซับน้ำจากเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ นั่นเอง เสื้อผ้าของเราก็จะชื้นน้อยกว่าเดิม ทำให้เราใช้เวลาตากผ้าน้อยลง และช่วยลดอาการอับชื้นของผ้าได้อีกด้วย

4.เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรลดกลิ่นอับ

อีกหนึ่งตัวช่วยที่ลดกลิ่นอับของผ้า คือ น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรลดกลิ่นอับ หลายๆคนคงไม่สะดวกที่จะซักผ้าตอนกลางวัน ก็สามารถซักกลางคืนแล้วตากหรือเข้าเครื่องอบแห้งได้เลย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็จะช่วยบรรเทากลิ่นอับให้หายไปได้ระดับหนึ่ง

5.เปิดพัดลมไล่ความชื้น

การตากผ้านั้นเรารู้กันดีว่าต้องตากในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงแดดส่องถึง แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนแล้วนั้นจะหาที่มีอากาศแห้งและถ่ายเทได้จากไหน แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะยังมีอีกทริคที่หลายคนยังไม่รู้ นั่นคือการเปิดพัดลมขณะตากผ้า วิธีนี้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและคอยไล่ความชื้นออกไปให้หมดจด ช่วยลดกลิ่นอับชื้นบนเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดีค่ะ

6.น้ำส้มสายชู

ผ้าที่เหม็นอับยังไงก็ต้องลงถังซักใหม่แถมบางครั้งซักใหม่ก็แล้วกลิ่นก็ยังไม่หาย แต่การใส่น้ำส้มสายชู ประมาณ 1 ถ้วย ลงไปพร้อมกับซักผ้าแบบปกติก็จะช่วยให้กลิ่นอับหายได้เลย แต่หากเป็นผ้าที่หนา เช่น ผ้ายีนส์หรือเสื้อโค้ท ให้แช่น้ำส้มสายชู 1 ถ่วยตวงผสมน้ำเปล่า 1 แกลลอนแช่ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้วซักปกติเพียงเท่านี้กลิ่นอับไม่พึงประสงค์ก็จะหายไปในพริบตา

7.ใช้เครื่องอบผ้าแทนการตาก

ไอเทมหน้าฝนที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือเครื่องอบผ้า เพราะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผ้าแห้งไวมากยิ่งขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการตากผ้า และไม่ทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นอับชื้นด้วย นอกจากนี้การอบผ้าให้แห้งสนิทจะช่วยฆ่าเชื้อและแบคทีเรียต่างๆได้ถึง 99.99% ลดโอกาสในการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบนเสื้อได้ดีกว่าการตากผ้าแบบปกติถึงสองเท่า ฉะนั้นเพียงแค่มีเครื่องอบผ้าก็จบทุกปัญหาของการซักผ้าหน้าฝนแล้ว

เพียงแค่ทำ 7 วิธีง่าย ๆ ข้างต้นก็จะช่วยให้การซักผ้าในหน้าฝนแบบไร้กลิ่นอับจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นลองไปปรับใช้กันดูนะ


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.sanook.com/campus/1424503/

เรื่องควรรู้ก่อนคิดจะซื้อ “ซิมเน็ตไม่อั้น”

 



ซิมเน็ตไม่อั้น หรือ ซิมอันลิมิเต็ตคืออะไร

ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักซอมประเภทนี้ก่อน มันคือ ซิมที่เราสามารถใช้งานข้อมูล หรือ Data ได้แบบไม่จำกัดเลยครับ เรียกว่าอยากจะเข้าอะไร หรือเล่นเกมแบบไม่ต้องห่วงว่าเน็ตจะหมด นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยครับ แต่โดยมากแล้วซิมแบบนี้ก็จะมีเงื่อนไขอยู่คือ

  • ข้อมูลที่ใช้ได้จะรองรับการดาวน์โหลดราวๆ 15 - 30Mbps (เมกะบิต ต่อ วินาที) หรือจะรองรับ 4G เท่านั้น ถึงราคาถูก
  • หากเป็นซิมที่มีการจ่ายรายเดือนละ 900 บาทขึ้นไปมักจะเป็นได้ความเร็ว 300Mbps

ซิมแบบนี้เหมาะกับใคร

ซิมแบบนี้จะเมหากับคนที่ต้องการใช้งานข้อมูลจำนวนมาก เช่นเล่นเกม, การดู Live Streaming ที่มีปริมาณความละเอียดสูง หรือความละเอียดเยอะๆ และไม่อยากทำให้ค่าบริการรายเดือนแพงเกินไป ก็เลยมักจะไปซื้อซิมเสริมกลุ่มนี้มาใช้งาน

ข้อจำกัดที่แอบอยู่

อย่างที่บอกในความหมายของซิมแล้ว แม้ว่าปริมาณที่ใช้งานไม่ได้จำกัด  ต่ว่าสิ่งที่ยังคงจำกัดอยู่คือในเรื่องของเครือข่ายและพื้นที่ให้บริการถ้าจุดนั้นมีสัญญาณที่ไม่ดีก็จะทำให้เน็ตของเราช้าได้เช่นเดียวกัน อย่าเพิ่งหัวร้อนกันไปนะ!!!

ซิมมีอายุไหม

โดยปกติแล้วซิมเน็ตไม่อั้นเหล่านี้ถ้าเป็นการซื้อมา ไม่ได้เป็นการจ่ายรายเดือน มักจะมีอายุเพียง 1 ปี โดยมากแล้วอาจจะไม่ได้ต่ออายุอัตโนมัติ มักจะต้องซื้อซิมใหม่อยู่เสมอ บางทีก็ดูไปแล้วเป็นการสิ้นเปลืองซิมและเบอร์ที่เปิด แต่ไม่ต้องกังวลเพราะโดยมากซิมเหล่านี้เมื่อครบอายุ จะปิดตัวเอง แต่ถ้าไม่มั่นใจ ลองติดตามผู้ให้บริการได้เช่นเดียวกัน

โดยสรุปแล้วซิมเน็ตแบบนี้ก็เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานปริมาณเยอะๆ ถ้าซื้อมาแค่เช็คอีเมล, Social เบาๆ และวิดีโอแบบไม่ได้ปรับความละเอียด มันก็จะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะครับ ยังไงก็ลองพิจารณาและปรับการใช้ให้ดีก่อนที่จะจ่ายเงินซื้อ


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.sanook.com/hitech/1595819/

ซ่อน Profile ของ Facebook ไม่อยากให้คนเห็นทำได้อย่างไร

 


Facebook Profile ที่น่าสนใจไม่น้อย แต่บางทีเราไม่อยากรับเพื่อนเพิ่มแล้ว หรือไม่อยากให้คนเห็น เราจะซ่อน Profile ได้อย่างไร วันนี้ Sanook Hitech มีคำตอบ 

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.sanook.com/hitech/1598851/

ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล  https://www.sanook.com/

วิธีปลดบล็อกของ Facebook กรณีที่คุณโดนบล็อก

 

MV ของ Lisa ที่ได้ปล่อยเพลง Rock Star ออกมาครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เมื่อคุณแชร์ไปทั้งลิงก์ใน Facebook Page หรือหน้าส่วนตัวก็ดี ส่วนใหญ่จะโดนบล็อกหมด แล้วเราจะแก้อย่างไร วันนี้ Sanook Hitech มีวิธีปลดบล็อกของ Facebook กรณีที่คุณโดนบล็อก ดังนี้

เหตุผลที่ Facebook บล็อกเรา

ก่อนอื่นเรามาดูสาเหตุกันก่อนว่าทำไม Facebook ถึงบล็อกเรา ซึ่งจากที่สอบถามมีความเป็นไปได้ว่าคลิปที่คุณแชร์นั้นอาจละเมิดนโยบายของ Facebook ในเรื่องเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น เนื้อหาที่มีความรุนแรง เนื้อหาทางเพศ หรือเนื้อหาที่อาจสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น

วิธีปลดบล็อก Facebook โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ตรวจสอบนโยบายของ Facebook: ศึกษา นโยบายชุมชน ของ Facebook เพื่อดูว่าเนื้อหาที่คุณแชร์นั้นละเมิดนโยบายใดหรือไม่
  2. ติดต่อ Facebook: คุณสามารถติดต่อ Facebook ผ่าน ศูนย์ช่วยเหลือ เพื่ออธิบายกรณีของคุณและขอความช่วยเหลือ
  3. รอการตรวจสอบ: Facebook จะตรวจสอบบัญชีของคุณและตัดสินใจว่าจะปลดบล็อกหรือไม่

หรือบางกรณีจะมีปุ่มให้กดเพื่อปลอดบล็อก โดยการใช้ข้อมูลเช่นบัตรประชาชน หรือ Passport ในการยื่นปลดบล็อก ก็คาดว่าจะใช้เวลาภายใน 24 ชั่วโมง ถึงจะสามารถปลดได้สมบูรณ์

และอย่างไรก็ตามมีช่องทางที่ง่ายในการแชร์เช่นคุณอาจจะเลือกแชร์แค่ภาพหรือ HasTags ก็พอแล้ว

ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.sanook.com/hitech/1601247/

หนังสือภายนอก-หนังสือภายใน

 หนังสือภายนอก-หนังสือภายใน






ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd


คำศัพท์วิชาการ (คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ)

 




คำศัพท์วิชาการ (คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ)

ราชบัณฑิตยสถาน ได้บัญญัติศัพท์วิชาการ (คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ) เมื่อ 29 กรกฎาคม 2559 เพื่อเขียนถูกต้องตามหลักเกณฑ์การเขียนคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ

ประกอบกับประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 ให้ใช้พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เป็นมาตรฐานในการเขียนหนังสือไทยให้เป็นระเบียบเดียวกัน

 

ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

สิ่งที่ส่งมาด้วย

 


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

การใช้คำ ทั้งนี้ ในการนี้ อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ใช้แตกต่างกันอย่างไร

 



ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

การจัดทำ QR Code ในหนังสือราชการ สำหรับเอกสารประกอบเรื่อง

 

การจัดทำ QR Code ในหนังสือราชการ สำหรับเอกสารประกอบเรื่อง

ให้จัดทำ QR code ที่ท้ายหนังสือนำส่ง ขนาดไม่น้อยกว่า 1.5 x 1.5 ซม.

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ปรับปรุงแนวทางการส่งเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0502/357 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563

แต่ระเบียบงานสารบรรณฯ ยังไม่มีการกำหนดูปแบบตำแหน่งการจัดวาง QR code แนบท้ายหนังสือ ดังนั้น ตำแหน่งการจัดวางจึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการดาวน์โหลดเอกสารประกอบเรื่อง ควรใส่ URL ที่อยู่ของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยลิงก์ URL ควรย่อให้สั้นลง เพื่อความสะดวกในการพิมพ์ลิงก์ให้ถูกต้องและป้องกันความผิดพลาดค่ะ

 





ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

การเรียงลำดับการใช้คำนำหน้านามตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคํานําหน้านาม พ.ศ.2536

 


การเรียงลำดับการใช้คำนำหน้านามตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคํานําหน้านาม พ.ศ.2536


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567

การลง วันเดือนปี ในหนังสือราชการ

 



การลง วันเดือนปี ในหนังสือราชการ

๑ ตุลาคม ๒๕๖๓

ตัวเลขของวันที่

ชื่อเต็มของเดือน

ตัวเลขของปีพุทธศักราชที่ออกหนังสือ

ถ้าเป็น คำสั่ง ระเบียบ ประกาศ

ให้มีคำว่า พ.ศ. และตัวเลขของปีพุทธศักราชที่ออกหนังสือ

เช่น

> สั่ง ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓

> ประกาศ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓



ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

 

การใช้คำ ควร-พึง-ย่อม-ต้อง-ให้

 การใช้คำ ควร-พึง-ย่อม-ต้อง-ให้




ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd


การรับรองสำเนา

 


การรับรองสำเนา

สำเนาที่จัดทำขึ้นด้วยการถ่ายเอกสาร อัดสำเนา หรือด้วยวิธีการอื่นใดโดยปกติต้อง “รับรองสำเนา”

การรับรองสำเนาให้มีคำรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง” โดยให้ข้าราชการ (เจ้าของเรื่อง) ที่ทำสำเนาลงลายมือชื่อรับรอง และลงชื่อตัวบรรจงตำแหน่งและวันเดือนปีที่รับรองไว้ที่ขอบล่างของหนังสือ

เจ้าของเรื่อง” ข้าราชการพลเรือน พนักงานส่วนท้องถิ่น ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ หรือประเภททั่วไป ระดับชํานาญงานขึ้นไป เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นที่เทียบเท่า พนักงานราชการ

 


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.facebook.com/sharedsaradd

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

 

“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาการดำรงชีวิตและการปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันโลกยุคโลกาภิวัตน์
.
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักปรัชญาที่ ในหลวง ร.9 พระราชทานแก่สังคมไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ “ความสุข” และ “ประโยชน์สุข” ของประชาชนและสังคมเป็นหลัก
.
กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นได้บนพื้นฐานของหลัก 3 ประการและเงื่อนไข 2 ประการ ประกอบด้วย
.
หลัก 3 ประการ ได้แก่
.
1. มีเหตุผล คือ ในการดำเนินการใด ๆ ต้องมองเห็นทางเลือกที่เกี่ยวข้อง เห็นเหตุและผล และผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบของทางเลือกต่างๆ เห็นผลที่เป็นคุณค่าแท้ของการดำเนินการนั้น ๆ
.
2. พอประมาณ คือ การดำเนินการควรต้องใช้ทรัพยากรและดำเนินการในระดับที่พอดีเหมาะสมกับเงื่อนไขที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในแบบที่ประหยัดไม่เกิดของเสียโดยไม่จำเป็น
.
3. มีภูมิคุ้มกัน คือ มีการพิจารณาถึงแผนสำรอง รองรับการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง
.
เงื่อนไข 2 ประการ ได้แก่
.
1. ความรู้ คือ ต้องมีทั้งองค์ความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีสติปัญญาที่จะพิจารณาว่าสิ่งที่เลือกจะนำไปสู่ความสุขและประโยชน์สุขหรือไม่
.
2. คุณธรรม คือ อยู่บนฐานของหลักคุณธรรมและศีลธรรมอันดีของสังคม ไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม


ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.facebook.com/

IPST Thailand

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ทิ้งพอเพียง

 


ยุทธศาสตร์ชาติ คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี (2560 - 2579)




ประเด็นยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้าน




วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

นวัตกรรมใหม่สุดเจ๋ง ของเล่นโลกดิจิตอล

 



9 นวัตกรรมใหม่สุดเจ๋ง ของเล่นโลกดิจิตอล

    1. AI หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า “ปัญญาประดิษฐ์” คือ การนำสติปัญญาของเครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์มาเป็นตัวแทนของมนุษย์ เช่น Robot ที่เราเริ่มเห็นถูกนำมาใช้แทน Customer Service อย่างมนุษย์มากขึ้น

    2. VR แว่น VR ทำให้เราเล่นเกม ดูหนัง หรือออกแบบบ้าน มองผ่านภาพ 3 มิติได้เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น

    3. Wearables อุปกรณ์สวมใส่ช่วยบันทึก จดจำหรือประเมินค่า ข้อมูลส่วนตัวของบุคคล มีทั้งรูปแบบสายรัดข้อมือ นาฬิกา กำไลหรือแม้กระทั่งแหวน

    4. Video Consumption นอกจาก Youtube จะเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างคอนเท้นท์ปัจจุบัน ยังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของโลกอนาคตที่จะทำให้คนเริ่มหันมาเล่าเรื่องผ่านวิดีโอ ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า

    5. Mobile Payments คลิกเดียว โอน จ่าย ง่ายผ่านมือถือด้วยแอปที่ธนาคารต่างๆ ทำขึ้นมา

    6. Smart Home บ้านอัจฉริยะ อยู่สบาย และอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย คือความท้าทายในการออกแบบบ้านปัจจุบัน

    7. Connected Car สุดยอมความไฮเทคของรถยนต์ที่เชื่อมต่อทุกฟังก์ชั่นผ่านสมาร์ทโฟน

    8. Drone เพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าในการสร้างแบรนด์จากการถ่ายภาพด้วยโดรน

    9. 3D Printing ระบบการพิมพ์แบบ 3 มิติ ถูกนำมาใช้กับ Mass Product ไปจนถึงแบรนด์ที่ทำสินค้าแบบ Tailor-made

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567