วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

จะเป็น Smart City ต้องมีอะไรบ้าง

           1) สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) เมืองที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีการใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการ จัดการน้ำ การดูแลสภาพอากาศ จัดการของเสีย การเฝ้าระวังภัยพิบัติ และประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
          2) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) เมืองที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมืองเกษตรอัจฉริยะ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ เป็นต้น
          3) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เมืองที่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการใช้พลังงานในพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพาพลังงานจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก
          4) การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) เมืองที่พัฒนาระบบบริการภาครัฐมุ่งเน้นความโปร่งใส และมีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมบริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ
          5) การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) เมืองที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ให้ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย และมีความสุขในการดำรงชีวิต
          6) การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เมืองที่มุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพและความเชื่อมโยงของระบบขนส่งและการสัญจรที่หลากหลาย เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยรวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
          7) พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) เมืองที่มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน 


ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ