ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยมาตั้งแต่โบราณ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis
paniculata และมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ Andrographolide
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฟ้าทะลายโจรเป็นหนึ่งในยาสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
จึงมีความสำคัญว่าเราจะใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างไรให้ได้ผลและปลอดภัย
1. ข้อบ่งใช้ของฟ้าทะลายโจร
- การใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด
19 ที่มีความรุนแรงน้อยเพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง ให้แบ่งรับประทานในขนาดที่มีปริมาณสารสำคัญคือ Andrographolide 180
มิลลิกรัม ต่อวัน โดยแบ่งให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง
(ครั้งละ 60 มิลลิกรัม) หลังอาหาร เช้า กลางวัน และ เย็น ติดต่อกันนาน 5 วัน
- การใช้ฟ้าทะลายโจรใน ผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ ให้ใช้ฟ้าทะลายโจรในขนาดที่มีปริมาณสารสำคัญคือ Andrographolide 60
มิลลิกรัม ต่อวัน โดยแบ่งให้รับประทานวันละ 3 (ครั้งละ 20 มิลลิกรัม) หลังอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น ติดต่อกันนาน 5 วัน
ในปัจจุบันไม่มีข้อแนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจรในการป้องกันโรคโควิด-19 เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ได้
- การใช้ฟ้าทะลายโจรฒเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณ Andrographolicde 10 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง นาน
5 วัน เว้น 2 วัน และใช้ต่อเนื่องกันไม่เกิน 12 สัปดาห์
- การใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อบรรเทาอาการของโรคหวัด
เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล โดยให้รับประทานในขนาดที่มีปริมาณ Andrographolide
60-120 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้วันละ 3 ครั้ง
(ครั้งละ 20 -40 มิลลิกรัม)1 ทั้งนี้ในบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับปี
พ.ศ. 25544 ได้ระบุข้อห้ามใช้ว่า
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอจากติดเชื้อ Streptococcus group
A และ ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ
เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A, ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียและมีอาการรุนแรง
เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง และหนาวสั่น และ
ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค และยังมีข้อแนะนำว่าหากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน
3 วัน แล้วไม่หาย หรือ
มีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยาควรหยุดใช้และพบแพทย์
2.
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร
- ห้ามใช้ในหญิงตั้ครรภ์
และ หญิงให้นมบุตรเพราะอาจทำให้ทารกวิกลรูปได้
- ห้ามใช้ผู้ที่มีประวัติแพ้
ฟ้าทะลายโจร หากใช้แล้วมีอาการแพ้ เช่น เกิดผื่น หน้าบวม ริมฝีปากบวม แน่นหน้าอก
หายใจลำบาก ให้หยุดยาทันทีและไปพบแพทย์
- ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคตับหรือโรคไต
3.
เมื่อรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วอาจเกิดอาการใดได้บ้าง?
- อาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรงที่พบได้บ่อยจากการใช้ฟ้าทะลายโจร
ได้แก่ อาการทางระบบทางเดินอาหารและระบบผิวหนัง เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้
เบื่อ อาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และอาจเกิดลมพิษได้
- อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรงจากฟ้าทะลายโจร
คิดเป็นประมาณ 103 คนต่อ 1,000 คน
กล่าวคือในผู้ที่รับประทานฟ้าทะลายโจร 1,000 คน 103 คนจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรง
- การรับประทานฟ้าทะลายโจรเป็นเวลานาน
อาจทำให้มีอาการแขนขาชา หรืออ่อนแรง หรือรู้สึกหนาวเย็นภายใน
- อาการรุนแรงที่สามารถพบได้จากการใช้ฟ้าทะลายโจร
ได้แก่ anaphylactic reaction ซึ่งเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลันส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง
ๆ ภายในร่างกายพร้อมกัน ซึ่งอาจมีความรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
- อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงจากฟ้าทะลายโจรคิดเป็น
0.02 ต่อ 1,000 คน กล่าวคือ
ในผู้ที่รับประทานฟ้าทะลายโจร 100,000 คน 2 คนจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง
4.
ควรระวังการรับประทานฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาใดบ้าง
- ยากันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant
drugs) เช่น warfarin
- ยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด
(antiplatelet drugs) เช่น aspirin, clopidogrel
- ยาลดความดัน (antihypertensive drugs) เพราะเสริมฤทธิ์กันอาจทำให้หน้ามืดได้ ยาที่มีกระบวนการเมทาบอลิซึมผ่านเอนไซม์ cytochrome P450 (CYP) เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ CYP1A2, CYP2C9 และ CYP3A4 ส่งผลให้ยาเหล่านี้อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น ออกฤทธิ์ได้นานขึ้น หรืออาจเกิดผลข้างเคียงที่มากขึ้นได้ ดังตัวอย่างแสดงในตารางต่อไปนี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthydee.moph.go.th/