ใครจะไปคิดว่าขนมหวานแสนอร่อยอย่างช็อกโกแลต
จะช่วยให้เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาได้
ซึ่งในปัจจุบันช็อกโกแลตมีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าให้ได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ
และก็มีหลากหลายยี่ห้อ ทำเอาบางครั้งที่นึกอยากจะทาช็อกโกแลตขึ้นมา
พอไปเลือกซื้อก็ซื้อ ไม่ถูก เพราะไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี
แต่ละแบรนด์ก็ออกแบบทำแพ็คเกจจิ้งออกมาได้น่ารัก น่าซื้อ
แต่จะว่าไปแล้วเราอย่าเพิ่งไปดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกของช็อกโกแลตกันดีกว่าค่ะ
จะทานช็อกโกแลตทั้งทีต้องดูให้ดีว่ามีดีอะไรอยู่บ้าง ถึงจะคุ้มกับเงิน
และสุขภาพของเรา
ยิ่งโดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่ชอบทานช็อกโกแลตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
จะให้โบกมือบ๊าย บาย กับช็อกโกแลตก็น่าจะเป็นเรื่องยากอยู่ค่ะ แต่ถ้าทานมากเกินไป
ไม่เบาหวานแทรกซ้อน ก็นํ้าตาลในเลือดสูง
จนอาจเป็นอันตรายได้ฉะนั้นหากอยากทานช็อกโกแลต ก็ลองหาข้อมูลทางโภชนาการมาเปรียบเทียบดูซะหน่อยก็ดีนะคะ
นักวิจัยจากภาควิชาระบาดวิทยาทีมหาวิทยาลัยไอโอวา วิทยาลัยการสาธารณสุข
และจากศูนย์ปริกำเนิดกุมาร ระบาดวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่มหาวิทยาลัยเยล
ได้รวบรวมหญิงตั้งครรภ์ 2,567 ราย เพื่อทำการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณ 2,351
ราย มีการตั้งครรภ์เป็นปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ระหว่างตั้งครรภ์
และมีหญิงตั้งครรภ์จำนวน 158 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
และอีก 58 รายซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะครรภ์เป็นพิษ (preeclampsia)
ภาวะครรภ์เป็นพิษนี้เป็นภาวะที่หญิงตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูง
และตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์
ภาวะครรภ์เป็นพิษสามารถนำ ไปสู่ปัญหาร้ายแรงสำหรับคุณแม่และลูกน้อย
แต่กรณีของการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากครรภ์เป็นพิษจะเกิดขึ้นได้น้อยลง
หากมีการตรวจพบและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ในการศึกษาคุณแม่กลุ่มที่มีการตั้งครรภ์ปกติ
มีการรับประทานช็อกโกแลตในระหว่างตั้งครรภ์มากกว่ากลุ่มอื่นๆ (80.7% หรือ สูงกว่า 5-5%) โดยใช้การเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม
คือหญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานช็อกโกแลตน้อยกว่า 1 หน่วยที่ให้บริโภคต่อสัปดาห์
การศึกษานี้ไม่ได้เป็นการศึกษาชิ้นแรกที่ได้รับผลในเชิงบวกสำ
หรับการรับประทานช็อกโกแลตในระหว่างตั้งครรภ์ ดร.ลิซาเบธดับบลิว
จากมหาวิทยาลัยเยลเคยดำเนินการศึกษาที่คล้ายกันในปี 2008 และพบความสำคัญกับการลดความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษpreeclampsia
(อ้างอิงจากบทความนพ.ม.ร.ว.ทองทิศ ทองใหญ่)
ประเภทและชนิดของช็อกโกแลต
- ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate) ไม่มีส่วนผสมของโกโก้เหลว แต่ใช้ไขมันโกโก้ (โกโก้บัตเตอร์) แทน
มีการเติมนํ้าตาลนมสด และกลิ่นวานิลลาลงไปด้วย
- ช็อกโกแลตนม (Milk
Chocolate) มีส่วนผสมทั้งจากโกโก้บัตเตอร์
นมไม่พร่องมันเนย
- แบบหวาน (Sweet
Chocolate)ช็อกโกแลตชนิดนี้เพิ่มความหวานมากขึ้น
ปริมาณความหวานในช็อกโกแลตสามารถแบ่งย่อยช็อกโกแลตได้อีก
3 ชนิด
- แบบไม่เพิ่มความหวาน (UnsweetenedChocolate) เป็นช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์ไม่มีการเติมความหวานใดๆ ทั้งสิ้น
ทำให้ได้รสชาติฝาดและขมของช็อกโกแลตเต็มๆ มักนำไปเป็นส่วนผสมหลักในการทำขนม
- แบบกึ่งหวาน (Semi-Sweet) ช็อกโกแลตเหลวกึ่งหวาน มีการเพิ่มความหวานและโกโก้บัตเตอร์ลงไปด้วย
- ช็อกโกแลตดำ (Dark
Chocolate) มีปริมาณโกโก้เหลวสูงถึง 75% มีความหวานน้อยมาก
ช็อกโกแลตมีประโยชน์แค่ไหน?
- สารฟีนอลในช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ
ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด
- ช่วยให้การทำงานของเยื่อบุผิวดีขึ้น
- มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรตไขมัน วิตามินเอ ดี เค
และธาตุเหล็ก
- คาเฟอีนในช็อกโกแลตช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- กระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินช่วยให้อารมณ์ดี
ไม่หงุดหงิดและลดความเครียดลงได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.anmum.com