วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เคล็ดลับง่ายๆกลับบ้านปีใหม่ ปลอดภัย ไกลโควิด-19

 

กลับบ้านปีใหม่ ปลอดภัย ไกลโควิด-19 thaihealth

ปีใหม่ เทศกาลแห่งการเปลี่ยนศักราชที่ทุกคนรอคอย เปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากเรื่องราวต่างๆ มาตลอดทั้งปี หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ หลายคนเลือกที่จะเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว คนรัก แต่ปีใหม่ปีนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ทำให้พวกเราต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตกันครั้งใหญ่เลยทีเดียว เหตุการณ์นั้นก็คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากในทุกๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันหยุดยาวอื่นๆ หรือแม้แต่ในช่วงเวลาปกติ ก็คือ ปัญหาอุบัติเหตุ ความพยายามเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถูกนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนว่า อะไรมีโอกาสทำให้เกิดการเสียชีวิตได้มากกว่ากัน แน่นอนว่าการที่พวกเราทุกคนมีความตระหนักถึงความจำเป็นในการต้องดูแล ป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่จะดียิ่งกว่าไหม ถ้าหากพวกเราทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุและความปลอดภัยทางถนนเช่นเดียวกัน ด้วยการสวมหมวกกันน็อค หรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อเดินทาง ไม่ว่าจะในระยะใกล้หรือไกล รวมทั้งไม่ลืมที่จะเช็กความพร้อมของทั้งคนและรถก่อนเดินทางเสมอ และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ดื่มไม่ขับเด็ดขาด เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา นั่นอาจหมายถึงอันตรายถึงชีวิต 


อะไรบ้าง! ที่ต้องพร้อมเมื่อขับขี่?

กลับบ้านปีใหม่ ปลอดภัย ไกลโควิด-19 thaihealth

1. คน เมื่อต้องเดินทางไกล หรือขับขี่ในช่วงเทศกาล ต้องเตรียมพร้อมมากกว่าปกติ เพราะการจราจรที่คับคั่งจะเพิ่มความเหนื่อยล้าได้มากกว่าการเดินทางในช่วงปกติ

ก่อนขับรถ : พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนขับ 24 ชั่วโมง

ระหว่างขับรถ : ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เตรียมผ้าเย็น ขนมแก้ง่วง เคารพกฎจราจร

กลับบ้านปีใหม่ ปลอดภัย ไกลโควิด-19 thaihealth

2.รถ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทาง ฉะนั้น ก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้ง จึงต้องเตรียมให้พร้อม โดยเฉพาะอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย อย่าง เบรก ยางรถ หมวกกันน็อก อุปกรณ์ชุดเซฟตี้

กลับบ้านปีใหม่ ปลอดภัย ไกลโควิด-19 thaihealth.

        3.ถนน ศึกษาเส้นทางที่ต้องเดินทางไป ว่ามีความเสี่ยงจุดใดบ้าง มีทางเลี่ยง ทางลัดจุดใด และลักษณะถนนโค้งมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย

                                                                        ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.thaihealth.or.th

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ทำงานได้อย่างมด และมีความสุขได้อย่างตั๊กแตน นิทานอีสปสะท้อนความสุขกับปัจจุบัน

 

    ทำงานได้อย่างมด และมีความสุขได้อย่างตั๊กแตน นิทานอีสป สะท้อนความสุขกับปัจจุบัน

มี นิทานอีสป ที่รู้จักกันดีเรื่องหนึ่งชื่อ มดกับตั๊กแตน ช่วงฤดูร้อนอันร้อนระอุนั้น เหล่ามดพากันสะสมเสบียงอาหารสำหรับฤดูหนาว อย่างขะมักเขม้น ในขณะเดียวกันตั๊กแตนกลับเอาแต่นอนในระหว่างวันที่ร้อนระอุ พอตกกลางคืนก็สีไวโอลินเพลิดเพลินจำเริญใจ เป็นเช่นนี้อยู่ทุกคืนวัน

ครั้นเมื่อฤดูหนาวมาเยือน ตั๊กแตนที่ไม่ยอมทำงานในฤดูร้อนก็ไม่สามารถหาอาหารกินได้ จึงบากหน้าไปขอส่วนแบ่งจากมด พวกมดจึงตำหนิว่า “ตอนฤดูร้อนที่พวกเราทำงานหนักเพื่อเตรียมรับฤดูหนาว เจ้าก็เอาแต่เล่น ไม่ตระเตรียมอะไรเลย ถึงได้แบบนี้” แต่ก็มีน้ำใจแบ่งอาหารให้ตั๊กแตน

แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองอีกแบบ จะมองว่ามดทำงานเพื่ออนาคตโดยแลกกับปัจจุบัน แต่ตั๊กแตนมีความสุขกับปัจจุบันก็ไม่เหมือนกัน เรื่อง มดกับตั๊กแตน นี้เถียงกันเท่าไหร่ก็ไม่จบครับว่าใช้ชีวิตอย่างไหนถึงจะมีความสุขมากกว่ากัน แต่ผมคิดว่า ถ้าคนไหนสามารถใช้ชีวิตอย่างมดและตั๊กแตนไปพร้อม ๆ กันได้จะมีชีวิตที่มีความสุขที่สุด เพราะสามารถทำงานได้อย่างมด และมีความสุขกับปัจจุบันได้อย่างตั๊กแตนนั่นเอง

 

 

ความคิดที่ว่า “ไม่เอาไหนอย่างฉัน” เป็นการเรียกความทุกข์เข้าหาตัว การมีความฝันหรือความหวังคือการเชื่อว่า “อนาคตมีสิ่งดี ๆ รออยู่อย่างแน่นอน” คนเราจึงได้ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนเพื่ออนาคต แต่การสละความสุขในปัจจุบันทุกอย่าง หรือปฏิเสธตัวเองในปัจจุบันอย่างสุดโต่งเพื่อให้ได้มาตามที่ฝันหรือหวังไว้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง การวาดฝันถึงอนาคตไปพร้อม ๆ กับการยอมให้ตัวเองสนุกกับปัจจุบันต่างหากที่จะทำให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเหมือนกันที่ไม่มีความฝันหรือความหวังในอนาคตเลย แล้วเอาแต่พูดว่า “ไม่เอาไหนอย่างฉัน” แม้จะไม่พอใจกับปัจจุบันไปหมด เพราะมีความนับถือตัวเองต่ำ แต่ก็เอาแต่คิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอที่จะแก้ไขอะไรๆ ได้

การที่คิดว่า “เพราะฉันเป็นแบบนี้ ก็เลยไม่มีความหวังอะไรสำหรับอนาคต” เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากนะครับ การมีความหวังกับอนาคต อาจเริ่มมาจากการมีความสุขกับปัจจุบันนั้นคือสิ่งเดียวกับแนวคิดเรื่องการปฏิเสธอดีตและอนาคต ซึ่งเป็นการปัดความรับผิดชอบโดยมีทัศนคติว่า “ตอนนี้มีความสุขอยู่กับปัจจุบันก็พอ แม้จะไม่พอใจกับตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตก็ช่างมัน ลืมมันไปเสียแล้วมีความสุขดีกว่า”

“การมีความสุขกับปัจจุบัน” ในความหมายของผมหมายความว่า “คนที่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างแท้จริงถึงจะมีความสุขกับปัจจุบันได้”

                                                        ขอขอบคุณข้อมูลจาก : goodlifeupdate.com

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

หาก “โควิด-19” ระบาดระลอก 2

 

    การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) รอบที่ 2 เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค หรือสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง แต่หากเกิดเหตุการณ์นี้ในประเทศไทย เราควรรับมืออย่างไร?

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า โดยทั่วไปเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน อากาศจะเริ่มเย็นลง อัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจจะเพิ่มมากขึ้น เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคไข้หวัด รวมถึง โควิด-19 ก็เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจโรคหนึ่งด้วย

    ถึงแม้ว่าขณะนี้ในประเทศไทยจะไม่พบการระบาดระหว่างประชากรไทยในประเทศ พบเพียงแต่การติดเชื้อจากกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่เมื่อมีมาตรการผ่อนปรนเป็นระยะออกมา อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดระลอก 2 อีกทั้งโรงเรียนเริ่มมีกำหนดเปิดเทอม ดังนั้นทุกคนจะต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตนอยู่เสมอ ไม่ละเลยในการเฝ้าระวังตนเอง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการระบาดระลอกใหม่

CovidSeason2a

มาตรการในการป้องกันโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

  1. ล้างมือบ่อยๆ
  2. ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน
  3. รับประทานอาหารแยกกับผู้อื่น
  4. การกำหนดระยะห่างของบุคคลอย่างน้อย 2 เมตร
  5. มีการสัมผัสกันระหว่างบุคคลให้น้อยที่สุด
  6. หลีกเลี่ยงการเข้าชุมชน หรือการรวมกลุ่มเป็นหมู่คณะ

ความเสี่ยงของการระบาดระลอก 2 ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนที่ต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะหากเกิดขึ้นจริง สถานการณ์จะหนักหนากว่ารอบแรกแน่นอน

                                                            ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.bangkokpattayahospital.com/

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ถ้าจะเรียนต้องรู้ ต่อปริญญาเอกจำเป็นกับอาชีพของคุณแค่ไหน

  


    ทางเลือกหนึ่งของภาวะหางานยากแบบนี้ คือการศึกษาต่อ โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งจบปริญญาตรีใหม่ ๆ ก็มักถือโอกาสนี้เรียนต่อปริญญาโท ระหว่างรองานไปด้วย ขณะที่บางคนกำลังลังเลว่าควรเรียนต่อปริญญาเอกดีไหม ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ก็อาจตัดสินใจเรียนต่อในทันที แต่ก่อนจะเรียน ลองมาสำรวจตัวเองให้ครบ 360 องศาก่อนว่า เป้าหมายในการเรียนต่อปริญญาเอกของคุณคืออะไร แล้วค่อยสมัครเรียนก็ยังไม่สายเกินไป 

เรียนต่อเอก


       
   เรียนต่อปริญญาเอกเพื่ออะไร

           ปริญญาเอกหรือ Doctor of Philosophy (Ph.D.) เป็นปริญญาสูงสุดที่เน้นการทำงานวิจัย สิ่งแรกเลย คุณควรต้องถามตัวเองก่อนว่ามีเป้าหมายชีวิตอย่างไร เช่น ต้องการทำงานในบริษัทเอกชนเพื่อไปให้สุด Career Path หรือสอบเข้ารับราชการ เพื่อไต่ระดับซีสูงสุด หรือต้องการใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น เพราะการตัดสินใจเรียนต่อปริญญาเอกนั้น คุณต้องเสียเวลาชีวิตไปอย่างน้อย 4 ปี ตามหลักสูตร บางคนอาจใช้เวลานานกว่านั้นกว่าจะจบการศึกษา รวมไปถึงค่าเทอมที่ต้องพิจารณา เพราะมีราคาสูงมาก หากเรียนในประเทศไทย ปีหนึ่งจะราว ๆ สองแสนบาท แต่หากเป็นต่างประเทศจะมากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี ฉะนั้นคุณต้องมีกำลังทรัพย์ที่พร้อม


           อาชีพไหนเหมาะกับคนมีใบปริญญาเอก

           หลายคนมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าเรียนจบยิ่งสูง ฐานเงินเดือนจะสูงตามไปด้วย แต่ความจริงแล้ว ในหลายสายอาชีพไม่ได้ต้องการรับพนักงานที่ Over qualified เพราะไม่มีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานในระดับปริญญาเอก

           อย่างไรก็ดี ยังคงมีอีกหลายอาชีพที่วุฒิปริญญาเอกตอบโจทย์ในการทำงาน ได้แก่ นักวิจัย หรืออาจารย์มหาวิทยาลัย หากเป็นในต่างประเทศแล้ว ถ้าผลงานวิจัยของคุณมีคุณภาพสูงมาก สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการได้ คุณจะเป็นที่ต้องการในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ไปร่วมงานด้วย ซึ่งการจะต้องจมอยู่กับงานวิจัยเป็นเวลาหลาย ๆ ปีนั้น คุณต้องมีใจรัก ในสิ่งที่ทำด้วย เพราะสถิตินักศึกษาระดับปริญญาเอกที่ drop การเรียนออกไปสูงถึง 50% เลยทีเดียว
           มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดประจำปี 2021

           เมื่อมั่นใจในเป้าหมายการเรียนต่อปริญญาเอกแล้วก็ลุยเลือกมหาวิทยาลัยกันเลย โดยจากการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดประจำปี 2021 ของ Times Higher Education พิจารณาจาก 5 ปัจจัย คือ การวิจัย การสอน อิทธิพลด้านการวิจัย รายได้จากอุตสาหกรรม และมุมมองระหว่างประเทศ ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น 5 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด ประจำปี 2021 ต่อไปนี้

           อันดับ 1      University of Oxford ประเทศอังกฤษ

           อันดับ 2      Stanford University ประเทศสหรัฐอเมริกา

           อันดับ 3      Harvard University ประเทศสหรัฐอเมริกา

           อันดับ 4      California Institute of Technology ประเทศสหรัฐอเมริกา

           อันดับ 5      Massachusetts Institute of Technology ประเทศสหรัฐอเมริกา

           การเรียนไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษาไหน จะเป็นคอร์สระยะสั้น หรือคอร์สระยะยาวก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น เพราะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเอง ควรเลือกที่เหมาะสมกับเป้าหมายชีวิตด้วย

                                                                                    ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://th.jobsdb.com/


วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

รับราชการอย่างไร ให้มีเงินเยอะ ????

รับราชการอย่างไร ให้มีเงินเยอะ



รับราชการ ก็จะพบกับคำที่ว่า        ข้าราชการสวัสดิการดี แต่ไม่มีเงินเก็บ”

รับราชการอย่างไรให้มีเงินเยอะ นั่นคือสิ่งที่เราเองนั้นต้องเข้าใจกันก่อน หากพูดเรื่องเงินเดือนข้าราชการคงไม่แปลกใจหากหลายคนจะเคยได้ยินประโยคด้านบน แน่นอนคนเราทุกคนเกิดมา เรียนหนังสือ ขวนขวายหาความรู้เพื่อมาทำงาน หลายคนพัฒนาตนเองเพื่อให้ได้งานที่ดี และผลพวงคือได้รับเงินที่ดีเป็นผลตอบแทน หลังจากนั้นก็แปรสภาพเงินเป็นความสุขตามที่เราต้องการ เมื่อถึงจุดหนึ่งหลายคนมักเกิดความลังเล สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อยากรับราชการ แต่รู้กันดีอยู่ว่าเงินเดือนนั้นแสนจะน้อยนิด ทำแทบตายก็ไม่รู้ว่าเงินเดือนจะสู้เพื่อน ๆ ที่ทำงานเอกชนได้หรือเปล่า หากใครที่กำลังมีปัญหาความสับสนอยู่ วันนี้เรามีไอเดียมาแชร์กันว่ารับราชการอย่างไรนะ ให้มีเงินเยอะ ๆ

เป็นทำไมข้าราชการ  เงินเดือนน้อย ยังไงก็ไม่รวย”

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่ว่าจะทำงานอาชีพไหน ๆ หากเรารู้จักวางแผนการใช้เงิน แผนกการเงินไม่ใช่เพียงรู้จักเก็บ รู้จักใช้ แต่ที่มาของการได้รายได้ของเรานั้นก็สำคัญ และอีกอย่างที่เราจะลืมไม่ได้คือตัวที่ทำให้เรานั้นต้องจำหน่ายใช้ออกไป หรือทางบัญชีเขาก็จะบอกว่า รายได้นั้นต้องนำมาลบด้วยรายจ่าย หรือค่าใช้จ่ายของเราแล้วจะนำมานับเป็นกำไรของเรา ตัวแปรง่าย ๆ ไม่กี่ตัวจะช่วยให้เรานั้นมีกำไรได้มากขึ้น เราก็จะมีเงินเก็บได้เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับคนที่อยากรับราชการแต่กังวลเรื่องเงินเดือน

เราจะพาไปดูข้อดีของการ รับราชการ กันก่อนดีกว่า มาเริ่มกันที่

·         สวัสดิการในระบบราชการดีเลิศ ทั้งค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย ทั้งของตัวแองและพ่อแม่รวมถึงลูก ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าเลือด ค่าออกซิเจน ฯลฯ ค่าอวัยวะเทียม อุปกรณ์บำบัดรักษาโรค ค่าซ่อมแซม ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าตรวจวินิจฉัยโรค (ไม่รวมค่าธรรมเนียมพิเศษ) ค่าตรวจครรภ์ ค่าคลอดบุตรและการดูแลหลังคลอด ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค

·         ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ เป็นต้น หรือไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนของบุตร รัฐก็ช่วยแบ่งเบาเราได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีบ้านพักข้าราชการอีก

·         ต่อมาเรื่องของความมั่นคง งานราชการได้รับไปเต็ม ๆ ไม่มีคำว่าไล่ออก เพราะรัฐไม่มีทางล้มแน่นอน สามารถจ้างงานเราไปได้ยาว ๆ จนถึงเกษียณ

·         มีบำเหน็จบำนาญ เมื่อเกษียณจากราชการ หลังจากทำงานมานานจนถึงอายุ 60 ปีแล้วเราก็สามารถเลือกว่าจะรับบำเหน็จหรือเราจะรับบำนาญ โดยต้องเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าอยากได้เงินก้อนหรือเงินรายเดือนไปเรื่อย ๆ

·         สำหรับการกู้ยืมเงินจากธนาคาร ข้าราชการสามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเงินกู้ทั่วไป แม้มีหนี้ก็เป็นหนี้ที่ไม่ต้องเสียดอกมาก และสามารถผ่อนชำระได้เป็นเวลานานอีกด้วย และนี่เป็นแค่ตัวอย่างสวัสดิการดี ๆ จากการรับราชการเท่านั้น

เห็นแล้วใช่ไหมว่าเปนช้าราชการไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลย ดูสิ คนแย่งกันไปสอบ ก.พ. มากมายทุกปี แต่สำหรับใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับเงินเดือนอันน้อยนิด กลัวไม่มีเก็บ เราไปดูเคล็ดลับการรับราชการให้ได้เงินเยอะ ๆ กันดีกว่าหา Second Job ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดแน่ ๆ การหางานเสริมทำไม่ใช่เรื่องแปลกเลย โดยเฉพาะถ้ารับราชการแล้ว เวลาเข้า-ออกงานจะเป๊ะมาก มีเวลาเหลือให้ทำอะไรอีกตั้งมากมาย ใช้โอกาสนี้แหละ หารายได้เพิ่มจากช่องทางอื่น ๆ ส่วนจะทำอะไรลองไปคิดตัดสินใจกันตามความชอบความถนัดดูนะ รับรองได้เงินเพิ่มขึ้นแน่ ๆ รู้จักวางแผนการเงิน ทั้งการออมและการลงทุน

เคล็ดลับการออม

·         ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะออมเท่าไหร่อย่างไร

·         เก็บเงินก่อนใช้ ได้รับเงินปุ๊บ เก็บส่วนที่จะออมปั๊บ รับรองยังไงก็เก็บได้ชัวร์ จะช่วยทำให้เรารู้ว่าเราเหลือเงินที่จะให้ใช้ได้เท่าไหร่

·         ทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพราะการทำบันทึกรายรับรายจ่ายจะทำให้เรารู้จำนวนเงินหมุนเวียนของเรา และรู้ว่าเราใช้จ่ายกับอะไรไปบ้าง จะช่วยให้จัดการกับเงินได้ดียิ่งขึ้น

·         งดใช้บัตรเครดิตที่เป็นเงินในอนาคตโดยไม่จำเป็น หากจะรูดบัตรเครดิต ต้องคิดเสมอว่ามีเงินสดที่พร้อมนำมาจ่ายในช่วงถึงกำหนดชำระ ไม่เข่นนั้นจะทำให้เกิดหนี้ยัตรเครดิตได้

·         เปิดบัญชีเงินฝากระยะยาว เพราะนอกจากจะประหยัดเงินแล้วต้องรู้จักการเก็บออมด้วย

·         ยกเลิกค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียทุกเดือนโดยไม่จำเป็น

·         ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ข้อนี้ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลจริง ๆ ว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นของแต่ละคนเป็นเรืองอะไร เอาเป็นว่าตัดสินใจกันให้ดีว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ยังไม่จำเป็นก็ลดลงบ้าง
เคล็ดลับการลงทุน นอกจากการออมแล้ว หากมีเงินเหลือควรจัดสรรมาลงทุนบ้าง

·         ลงทุนแบบกองทุนรวมตราสารหนี้ คือการลงทุนในกองทุนรวมที่นำเงินเราไปลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ เป็นต้น

·         ฝากประจำ คือการฝากงเงินทุก ๆ เดือน โดยเลือกฝากกับโครงการที่ได้รับดอกเบี้ยสูง ๆ

·         กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เชื่อว่าทั้งคนทำงานและข้าราชการจะต้องรู้จักการลงทุนแบบนี้ โดยเป็นการสะสมเงินออมโดยเลือกสะสมได้ตามจำนวนเปอร์ฌซ็นต์ที่ต้องการ แน่นอนว่าแทบทุกบริษัทมีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับพนักงานอยู่ สำหรับข้าราชการก็จะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

·         สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจและน่าลงทุน ผลตอบแทนที่ได้รับเป็นปันผลจะได้มากกว่าดอกเบี้ยธนานคารแน่นอน

·         หุ้น สำหรับใครที่มีเวลา ศึกษาหาข้อมูลเล่นหุ้นดูก็เป็นอีกวิธีการลงทุนที่ดี แต่ต้องมีเวลาและศึกษารายละเอียดให้ดีนะ

นี่ก็เป็นตัวอย่าง เคล็ดลับง่าย ๆ ในการช่วยเก็บเงินสำหรับข้าราชการที่คิดว่าตนเองเงินเดือนน้อย ไม่พอใช้ ไม่มีเงินเก็บ ไม่รวยแน่ ๆ อยากแนะนำให้ลองทำตามกันดู ทุกวิธีล้วนมีประโยชน์และดีทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองและการนำไปปรับใช้ของแต่ละคน หากรู้จักการออม การลงทุน รู้จักหาช่องทางทำเงิน รับรองว่ายังไงก็ไม่อดตาย รับราชการเงินเดือนไม่มากก็มีเงินเก็บได้แน่นอน

                                                                                                                                  ขอขอบคุณข้อมูลจาก: sorbdd.com

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร หลังวิกฤตโควิด-19 จบลง?

 

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างความโกลาหลวุ่นวายให้กับโลกอย่างหนักหน่วงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน ผู้เขียนได้เคยอธิบายผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยตรงไปแล้วในบทความ “ไวรัสโคโรนา: ฝันร้ายของเศรษฐกิจโลก?” ตั้งแต่เมื่อครั้งสถานการณ์ภายนอกประเทศจีนยังไม่รุนแรงนักและอัตราการติดเชื้อชะลอลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยอมรับโดยดุษณีว่าการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้รุนแรง รวดเร็ว และขยายวงกว้างกว่าที่เคยประเมินไว้จริง ๆ จึงต้องขอให้กำลังใจอีกครั้งกับบุคลากรทางสาธารณสุขแนวหน้าทุกท่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลกที่พยายามเยียวยาผลกระทบอันใหญ่หลวงนี้ ผู้เขียนได้แต่หวังว่าฝันร้ายครั้งนี้จะจบลงด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกท่านในการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) โดยเฉพาะการอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่และรับเชื้อ และการได้รับประโยชน์จากมาตรการเยียวยาของภาครัฐอย่างตรงจุดในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ตลอดจนความสำเร็จจากการคิดค้นวิธีการรักษาและวัคซีนป้องกันไวรัสโดยเร็วที่สุด


แต่ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งได้สิ้นหวังไปครับ เพราะทุกวิกฤตมีเกิดแล้วย่อมมีดับเป็นธรรมดา การแพร่ระบาดครั้งนี้ก็เช่นกัน คำถามสำคัญที่ตามมาคือ เมื่อวิกฤตครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว โลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บางขุนพรหมชวนคิดจึงขอชวนท่านผู้อ่านมองไปข้างหน้าและคิดตามกันในแง่มุมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ครับ

"การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (deglobalization) จะมีความเข้มข้นมากขึ้น 
และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

1. การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (deglobalization) จะมีความเข้มข้นมากขึ้น และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว: ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ เราได้เห็นหลายประเทศใช้นโยบายแบบเน้นตนเอง (inward-looking policy) หรือปกป้องทางการค้า (protectionism) อย่างชัดเจนกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากสงครามการค้าที่ปะทุขึ้นโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติอเมริกันกลับมาผลิตในประเทศมากขึ้นและกีดกันการค้าจากต่างประเทศ ประเด็นนี้กลับมาชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังตอกย้ำความเชื่อของฝ่ายขวาจัดและผู้ไม่สนับสนุนโลกาภิวัตน์ว่า การพึ่งพิงระบบการผลิตระหว่างประเทศมากเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งจะเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกที่มีอยู่แล้วให้ยิ่งรวดเร็วมากขึ้น กล่าวคือ ประเทศต่าง ๆ จะหันมาพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศตนเองเพิ่มขึ้นอีก และกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและขายสินค้าโดยไม่พึ่งพาแต่ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น เพราะเห็นผลกระทบชัดเจนจากขั้นตอนการผลิตหรือตลาดขายสินค้าเมื่อยามที่ต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการต่าง ๆ อาทิ การปิดเมืองหรือประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นอกจากนี้ รัฐบาลประเทศต่าง ๆ อาจเปลี่ยนวิกฤตครั้งนี้ให้เป็น “โอกาส” ในการคิดทบทวนอย่างรอบคอบว่านโยบายเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปในทิศทางใด โดยจะพยายามกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโดยไม่พึ่งพารายได้ทางใดทางหนึ่งจนเกินไป อาทิ ไม่พึ่งพาแต่การส่งออกหรือการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่อาศัยการบริโภคและการลงทุนในประเทศเป็นเครื่องจักรสำคัญด้วย

"ปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข 
จะได้รับการแก้ไขให้ทั่วถึงและเสมอภาคมากขึ้น"

2. ปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข จะได้รับการแก้ไขให้ทั่วถึงและเสมอภาคมากขึ้น: วิกฤตโควิด-19 สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลหลายประเทศหันมาใส่ใจพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประชาชนและไม่ปล่อยให้กลไกตลาดเป็นตัวจัดการอย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ที่ระบบสาธารณสุขไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า วิกฤตครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่บุคคลจะเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้หรือไม่นั้นไม่ควรเป็นเรื่องของปัจเจกชนอีกต่อไป เพราะคนคนหนึ่งที่จริง ๆ แล้วเป็นพาหะของโรคอยู่ แต่ไม่สามารถไปใช้บริการตรวจไวรัสได้เพราะจ่ายเงินค่าตรวจไม่ไหวทั้ง ๆ ที่อยากไป และคงใช้ชีวิตแบบเดิมตามปกติ ทำให้แพร่โรคระบาดต่อไปให้ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวได้ จนในที่สุดการควบคุมโรคในภาพรวมจะทำได้ยากลำบาก และเป็นเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดหนักหนากว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ ดังที่ปรากฏในปัจจุบันตามยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแซงหน้าอิตาลีไปแล้ว ดังนั้น หลังผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ เราอาจได้เห็นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของระบบรัฐสวัสดิการในแต่ละประเทศก็เป็นได้

"สังคมจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ 
เพื่อให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป"

3. สังคมจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป: ทุกวิกฤตย่อมทิ้งร่องรอย (legacy) ไว้เสมอ ย้อนกลับไปในสมัยการระบาดของโรคซาร์สในปี 2545 ก็สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการใช้เทคโนโลยีออนไลน์อย่างอีคอมเมิร์ซในจีนให้มาเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะอาลีบาบาและเจดีดอทคอม เพราะผู้คนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากพื้นที่สาธารณะและหันมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น มาถึงวิกฤตครั้งนี้ก็จะทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน โดยเป็นการตอกย้ำให้ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมต้องเร่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อช่วงชิงตลาดจากการค้าขายแบบออนไลน์มากขึ้นอีก รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลหลายประเภทที่มีมานานแล้วแต่ยังไม่มีคนใช้กันมากนัก วิกฤตครั้งนี้กลับบังคับให้คนต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างจริงจัง และสร้างโอกาสต่อยอดให้มีผู้เล่นในตลาดมากยิ่งขึ้น อาทิ แพลตฟอร์มที่ช่วยสื่อสารทางไกล จัดประชุม หรืออีเวนท์ ซึ่งผู้บริโภคจะเกิดความคุ้นเคยและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้เทคโนโลยีอย่างถาวร นอกจากนี้ แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาก็ต้องพัฒนาไปใช้วิธีการสอนแบบออนไลน์ทดแทนทั้งหมดในช่วงวิกฤต ซึ่งอาจพลิกโฉมระบบการศึกษาโลกไปโดยสิ้นเชิงหลังผ่านพ้นวิกฤตแล้ว และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผู้คนอาจจะกลัวการใช้เงินสดหรือธนบัตร เพราะกระดาษอาจเป็นพาหะของเชื้อโรคได้แม้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว และจะเริ่มคุ้นชินกับการรักษาสุขอนามัยอย่างเข้มงวดไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ ด้วยปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นได้ครับ
                
                                                                                              ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.bot.or.th

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

วิธีจัดการกับความโกรธ เมื่อเกิดปัญหาในการทำงาน

 


  ความเครียด ความเร่งรีบ ความกดดัน การแข่งขัน การเผชิญหน้า ฯลฯ สารพัดรูปแบบการใช้ชีวิตในโลกยุคปัจจุบัน ดูเหมือนจะทำให้หลาย ๆ คน กลายเป็นคนใจร้อน หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือเรียกให้อินเทรนด์เสียหน่อยว่า “หัวร้อน” ได้ง่ายขึ้น ยิ่งในโลกของการทำงานที่นำพาให้คนทำงานทุกคนต้องไปข้องเกี่ยวกับสารพัดเหตุการณ์เฉพาะหน้า หลากหลายอุปสรรคปัญหารายวัน อาการปรี๊ดแตกอาจมาเยือนได้ในที่สุด หากไม่อยากน็อตหลุดจนเพื่อนร่วมงานวงแตก หรือลุกลามไปจนถึงแตกหักกับเจ้านายหรือลูกค้า

 1. รู้เท่าทันอารมณ์ ใช้หลักสติมาปัญญาเกิด เริ่มจากตระหนักรู้อารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น สังเกตอารมณ์ ความคิด และร่างกายของเราว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ให้เกิดการรู้ตัวอยู่ทุกขณะจิต

          2. ยอมรับความโกรธที่เกิดขึ้น ง่าย ๆ แค่ยอมรับว่ากำลังโกรธ ไม่คิดหาสิ่งอื่นมารองรับความโกรธของตัวเรา เพราะยิ่งโทษสิ่งแวดล้อม หรือโทษบุคคลอื่น ก็ไม่ช่วยให้ความโกรธลดลง ทำใจให้นิ่ง แล้วแยกแยะให้ได้ถึงสาเหตุของความโกรธ เพื่อเตรียมตัวเองไปสู่การรับมือแก้ปัญหาในลำดับถัดไป

          3. cool down หายใจเข้าออกลึก ๆ หลายครั้งที่เวลาโกรธ เรามักหลุดปากสวนคำพูดอะไรบางอย่างออกมาโดยไม่ได้คิด ให้หยุดตัวเองไว้ก่อน ผ่อนคลาย หายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1-10 ซื้อเวลา พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น และห้ามตัวเองไม่ให้พูดอะไรที่อาจทำให้รู้สึกเสียใจภายหลัง

          4. ช้า ๆ อย่าใจร้อน เมื่อปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อารมณ์โกรธก็จะเข้ามาควบคุมการกระทำทุกอย่าง เกิดอาการหุนหันพลันแล่น ทำอะไรออกไปโดยไม่ยั้งคิด จนเหตุการณ์อาจลุกลามรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้น เมื่อรู้ตัวว่าโกรธ ให้ลองทำอะไรให้ช้าลง เดินช้าลง พูดช้าลง กลั่นกรองทุกคำจากสมอง หากตรองดูแล้วว่าพูดไปไม่เกิดผลดีกับใคร ให้หยุดคำพูดนั้นซะ

         5. ค่อย ๆ พูด โดยใช้ประโยคที่สุภาพ ตั้งสติได้แล้ว ให้พูดคุยกับคู่สนทนาด้วยเหตุและผล บอกว่าตัวเราคิดอย่างไร ด้วยประโยค “ดิฉัน/ผมคิดว่า…” หรือ “ดิฉัน/ผมอยากเสนอว่า…”

         6. เอาใจเขามาใส่ใจเรา คนที่กำลังโกรธมักนึกถึงแต่ตัวเอง โดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น นอกจากไม่สนใจคู่กรณีว่าเขามีเหตุผลใดในความขัดแย้งนี้แล้ว ยังลืมนึกถึงคนรอบข้างที่จะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจจากการเหวี่ยงวีนของเรา อย่าหาข้ออ้างในการแสดงความโกรธ หยุดโทษผู้อื่น เมื่อรู้ตัวว่าเรากำลังแสดงอารมณ์โกรธในที่ทำงาน ให้ตระหนักว่านั่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ต้องลด ละ เลิก เบรกตัวเองไว้บ้าง เพื่อบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

         7. ปลีกตัวออกจากสถานการณ์นั้น หากรู้สึกทนไม่ไหวจริง ๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้ตัดบทขอตัวคู่สนทนา ว่าขอคุยเรื่องนี้เพียงเท่านี้ก่อน พาตัวเองออกจากสถานการณ์ตึงเครียดนั้น เพราะการออกจากห้องสี่เหลี่ยมจะช่วยให้ตัวเราได้ผ่อนคลายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ช่วยลดความเครียด ทำใจให้เย็นลง ก่อนกลับมาเผชิญกับปัญหาด้วยอารมณ์ที่นิ่งขึ้น

         8. ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด แทนที่จะยึดติดอยู่กับอารมณ์โกรธ ให้หาทางออกด้วยการคิดแบบใดก็ได้ที่ทำให้ความโกรธลดน้อยลง หรือคิดข้าม shot ไปสู่การแก้ปัญหาจากความขัดแย้ง หลาย ๆ ครั้ง ในมุมไม่ดีก็ยังมีสิ่งดีซ่อนอยู่ ความขัดแย้งบางครั้งก็อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง การสร้างสรรค์ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เช่นกัน

         9. รู้อภัย มองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว หากเราทำใจให้อภัยได้ก็อาจทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว จากการที่เราปล่อยผ่าน แก้ไข แล้วจบ จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นในชีวิต

         10. เพิ่มพลังด้านบวก หากวันนั้นเป็น bad day ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องเติมเต็มกำลังใจให้ตัวเอง ด้วยการพูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือคนสำคัญในชีวิต ช่วยสร้างกำลังใจได้เมื่อต้องพบเจอกันสถานการณ์ที่ยากลำบากในการทำงาน เป็นการใช้พลังด้านบวกมาเอาชนะพลังด้านลบในตัวนั่นเอง

  11ทำใจให้นิ่ง ฝึกตัวเองให้เป็นคนอดทน ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มีสติทุกครั้ง จิตใจมั่นคง เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ไม่หงุดหงิดตอนรถติด ไม่หัวเสียกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ หรือจะลองติดข้อความเตือนใจไม่ให้เป็นคนหัวร้อนไว้ตามที่ต่าง ๆ รอบตัว เช่น โต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์ บนกระจกแต่งตัว ฯลฯ ก็ช่วยเรียกสติให้กลายเป็นคนใจเย็นลงได้ไม่น้อย

          ความโกรธก็เป็นแค่อารมณ์หนึ่งในชีวิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนเป็นปกติธรรมดา แต่เมื่อเกิดอารมณ์โกรธแล้ว ต้องมีสติ รู้เท่าทัน รับมือจัดการอย่างชาญฉลาด อย่าปล่อยให้อารมณ์พาเราไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ใส่ใจผู้อื่นให้มากขึ้น เพื่อลดอารมณ์ด้านลบในตัวเรา อย่าลืมว่าบรรยากาศดี ๆ ในที่ทำงาน เราช่วยกันสร้างได้ จะได้ทำงานอย่างมีความสุขและสนุกกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้ชีวิตการทำงานของเราดีขึ้นกว่าเดิม

                                                                      ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://th.jobsdb.com/

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เช็คดวงก่อนส่งงาน ให้ปัง กับดวง 12ราศี ประจำเดือน ตุลาคม 2563

ดวงความรัก ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้ง 12 ราศี จากหมอดูชื่อดัง Sanook horoscope ดวงของท่านจะราบรื่นหรือร้าวรานในเดือนนี้ ไปเช็กกัน

 

ราศีเมษ ..ราศีต้นธาตุไฟ  บอกถึง หัวใจที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์และจริงใจ แต่ แต่เมื่อมีลมเป่า ก็จะเป็นดุจเปลวเพลิงในเตาหลอมโลหะที่พร้อมจะหลอมธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดให้ละลาย... อารมณ์ร้อนแรง ยับยั้ง ไม่ได้จากการถูก “ลมปาก” เป่า ก็จะทำให้ความรัก..ร้าวราน

เดือนพฤศจิกายน รักแสนหวานแต่ทรมานใจที่อาจเกิดขึ้นในเดือนนี้ เมื่อดาวอังคาร พลังเข้มข้นแห่งอารมณ์ที่นำไปสู่การกระทำ ที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีเมษ ได้อ่อนกำลัง จนถึงอาจหมดแรง เมื่อโคจรเข้ามาสถิต พักร องศาในเขตราศีมีน จึงอยู่ในตำแหน่งวินาศ ที่บอกถึงสิ่งที่ซุกซ่อน ซ่อนเร้นไว้ในใจ ขณะที่ดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข และเป็นสัญลักษณ์แห่งคู่ครอง จะโคจรจากราศีกันย์ ที่ทำมุมเล็งกับดาวอังคาร ... สู่ ราศีตุล โดยจะทำมุมเล็งกับดาวมฤตยู  ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

แค่ไม่เก็บเงียบไว้ในใจ ควรพูด  เขียนให้เขา/เธอ ได้รู้ ได้เข้าใจไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รัก หวาดระแวง น้อยใจ ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะได้ปรับความเข้าใจ จนรักหวาน โรแมนติคมากขึ้น  และสัมพันธ์รักที่เริ่มต้นมาได้ในระยะหนึ่ง เดือนนี้ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะขอวิวาห์ ขอร่วมคู่เคียงหมอนกัน ที่มีโอกาสสูงว่าจะได้..สมรส สมรัก

สำหรับคนโสด  หากเข้าร่วมกลุ่มทำกิจกรรมอาสาใดๆ ก็ตาม ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะได้พบรัก เจอเนื้อคู่ ที่เขา/เธอ ก็พร้อมจะสานรัก พัฒนาสัมพันธ์จนได้ครองคู่กันอย่าง..รวดเร็ว

ราศีพฤษภ ...ราศีกลางธาตุดิน ดินที่อ่อนนุ่มที่ต้องอาศัยธาตุไฟ ไฟรัก มาหลอมจนก่อรูปเป็นความรักที่หนักแน่น มั่นคง และจริงจัง ที่บางครั้งอาจมากเกินไปจนกลายเป็นยึดติด ต้องการครอบครองคนที่รัก สิ่งที่รัก ไว้คนเดียว

เดือนพฤศจิกายน เดือนที่ “รักต้องสู้” ที่ต้องสู้ด้วยหัวใจรัก ที่พร้อมจะเป็นผู้ให้  ถึงจะได้เข้าถึงหัวใจของเขา/เธอ เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข และที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีพฤษภ จะโคจรจากราศีกันย์ ที่ทำมุมเล็งกับดาวอังคาร เข้าสู่ราศีตุลย์ โดยทำมุมเล็งกับดาวมฤตยู ณ เขตราศีเมษเช่นกัน ขณะที่ ราหูที่เป็นเงามัวหม่น ยังสถิต ณ เขตราศีกำเนิดของชาวราศีพฤษภ ได้ทำมุมเล็งอย่างมีนัยยะสำคัญกับดาวอาทิตย์ ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า

ไม่เรียกร้องที่จะเป็นฝ่าย “อยากได้” ไม่โต้เถียง เพื่อแค่เอาชนะคนรัก คู่ครองด้วยคำพูด เขียนใดๆ และพร้อมจะเอ่ยปากให้ความช่วยเหลือ บริการ โดยไม่ต้องให้เขา/เธอร้องขอ รวมถึงเข้าร่วมกลุ่มทำกิจกรรมด้วยกัน แค่นี้ก็จะสามารถรักษาสัมพันธ์รักให้ราบรื่น ที่อาจทำให้หวาน โรแมนติค และ วาบหวามมากขึ้นด้วยก็ได้

สำหรับคนโสด  เริ่มจากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็น “คนใหม่” สดใสมากขึ้น , ไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป, ร่วมกลุ่มทำกิจกรรมใหม่ๆ ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะได้พบรัก เจอคนถูกใจ และแค่ไม่ละความพยายามที่จะตามติด ก็จะมีโอกาสได้ครองรัก ร่วมคู่เคียงกันในเวลาอีกไม่นาน

ราศีเมถุน...ราศีธาตุลม ที่มีดาวพุธ ดาวแห่งความคิด สติปัญญา การสื่อสารที่รวดเร็ว มีบทบาทโดดเด่น  ที่ทำให้ชาวราศีเมถุน แปรปรวน เปลี่ยนแปลง ได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งเรื่องความรัก

เดือนพฤศจิกายน เดือนที่ลมรักจะพัดพาไปตามอารมณ์ที่ปรวนแปรไม่แน่นอนของชาวราศีมิถุน เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข ก็จะโคจรจากราศีกันย์ที่ทำมุมเล็งกับดาวอังคารในเขตราศีมีน  มาสถิตร่วมกับดาวพุธ ดาวแห่งความคิด สติปัญญา ที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีมิถุนในเขตราศีตุลย์ ที่จะทำมุมเล็งกับดาวมฤตยูในเขตราศีเมษ ซึ่งได้แสดงออกถึงความแปรปรวน เปลี่ยนไปมา ไม่แน่นอน  ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า

ตื่นเต้น ท้าทาย กับความแปลกใหม่  ด้วยเฉพาะที่ได้จากการติดต่อ สัมพันธ์ หรือ แชทออนไลน์ กับเพศตรงข้ามที่อายุอ่อนกว่า ที่อาจทำให้ชาวราศีมิถุนติดใจ หลงใหลจนยึดติดอยู่ตรงนั้น ที่ควรยั้งสติ ถอนใจมาสักนิด พิจารณาให้รอบคอบมากขึ้น เพราะรักสนุกครั้งนี้ ก็มีเกณฑ์สูงว่าจะไม่....จีรัง ที่จะทำให้ทุกข์ใจไปอีกนาน

แต่สำหรับคนมีคู่รัก คู่ครองอยู่แล้ว ถึงสัมพันธ์รักจะดูราบรื่น แต่ก็ควรใส่ใจ สังเกตเขา/เธอมากขึ้น เพราะอาจมีความเครียด วิตกกังวลโดยเฉพาะเรื่องภายในครอบครัว ที่ไม่ได้แสดงออก ที่เป็นดังภูเขาไฟใต้น้ำ ที่รอวันปะทุ ระเบิดออกมา ซึ่งถ้าถึงวันนั้นก็อาจ...สายเกินไป

ราศีกรกฎ... ราศีต้นธาตุน้ำ แหล่งกำเนิดของธารน้ำ มหาสมุทร น้ำที่ไหลริน  ที่เป็นไปตามความรู้สึกไม่ใช่เหตุผล มีความสุข สบายใจ ถึงทำ ..ไม่ชอบ ไม่ทำ ความรู้สึกใด ความรักใดทำให้เจ็บปวด ไม่สบายใจ...ก็ถอยหนี หลบ และ หลีกเลี่ยง

เดือนพฤศจิกายน ด้วยการเดินทางของความรัก ที่อาจทำให้ได้ร่วมคู่ เคียงใครสักคน ที่ได้พบเจอกันตามเส้นทางท่องเที่ยวในเดือนนี้ เมื่อดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข ได้โคจรมาสถิต ณ เขตราศีกันย์ ที่เล็งกับดาวอังคาร คู่ชื่นเสน่หา มาสถิตคู่กันกับดาวพุธ ณ เขตราศีตุลย์ โดยทำมุมเล็งกับดาวมฤตยูในเขตราศีเมษเช่นกัน  ขณะที่ดาวเสาร์ เจ้าแห่งชะตากรรม สัญลักษณ์แห่งคู่ครอง ก็โคจรเดินหน้าตามปกติ ณ เขตราศีมกรแล้ว ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า

การท่องเที่ยวร่วมกับคนรัก คู่ครอง ร่วมกลุ่มกับญาติสนิทมิตรสหาย ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะทำให้สัมพันธ์รักที่เคยราบเรียบ ชืดชา น่าเบื่อหน่าย มีโอกาสจะหวาน โรแมนติคมากขึ้น

สำหรับคนโสด ก็อาจได้พบรัก เจอคนถูกใจ ที่อาจเข้ามาร่วมสานรัก พัฒนาสัมพันธ์จนได้ครองคู่ และเวลายังเป็นของมีค่าดังทองคำ เดือนนี้ สุดท้ายแล้วที่เขา/เธอคนนั้น หากเป็นชาวต่างชาติ ที่สูงวัยกว่า ก็มีเกณฑ์สูงว่าจะเป็น....เนื้อคู่

ราศีสิงห์...ราศีธาตุไฟ ที่ต้องการเปล่งแสงสว่าง ให้โดดเด่น ที่ต้องการให้คนอื่นยอมรับพลัง อำนาจที่มี ดังนั้นอาจถูกหลอกลวงได้ง่ายจากคนที่เข้ามาประจบ สอพลอ นบนอบ เคล้าเคลีย  โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก...

เดือนพฤศจิกายน  การเดินทาง ทั้งจากขยับเท้าก้าวออกไป หรือ คลิก! ขยับนิ้วใช้สื่อออนไลน์ ก็อาจนำไปสู่ปลายทางรัก เพราะจาก เดือนที่ดาวอาทิตย์ ขุมพลังแห่งจักรวาล ดาวพเนจรที่พร้อมจะร่อนเร่ ย้ายตำแหน่งไปทุกเดือน ที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีสิงห์ก็ จะโคจรจากราศีตุลย์ ไปสู่ราศีพิจิก ขณะที่ดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข ก็เตรียมโคจรตามมาเพื่อตามหารัก...เช่นกัน ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า

ในเดือนนี้ ทั้งจากการเดินทางไปต่างจังหวัด การเข้าร่วมสัมมนา อบรมระยะสั้น รวมถึงขยันเข้าสังคม สมาคมกับผู้อื่น ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดี ที่คนโสดจะได้พบรัก เจอคนถูกใจ จะมีเพศตรงข้ามที่จะแอบรัก เข้ามาพัวพัน ตามติด เพื่อให้ได้รัก ได้เลือกจนพอใจ ที่อาจนำไปสู่วิวาห์ ได้ครองคู่กันอย่างรวดเร็ว

แต่สำหรับคนมีคนรัก คู่ครองอยู่แล้ว หากไปไหนคนเดียวโดยเดี่ยวโดด ก็ควรยั้งใจสักนิด ก่อนจะเผลอ หลงระเริง เพริดไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ก็อาจมี “รักซ้อน ซ่อนรัก” จนอาจต้องเจอ....รักสนุก ทุกข์สาหัสนัก

ราศีกันย์...ราศีปลายธาตุดิน ราศีแห่งนางฟ้าที่ต้องการความรักที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบที่แสดงออกด้วยการกระทำ คำพูดที่เห็นเด่นชัด  โดยเฉพาะคำพูดว่า “ฉันรักเธอ”

เดือนพฤศจิกายน เดือนแห่ง “รัก” คือการให้ ให้ด้วยความรัก เมตตา เสียสละ และให้อภัย ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะได้รับสิ่งดี ๆ กลับคืน เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุขที่จะโคจรจากราศีกันย์ เข้าสู่ราศีตุลย์ โดยมาสถิตร่วมกับ ดาวพุธ ดาวประจำตัวของราศีกันย์  ดาวแห่งความคิด สติปัญญา ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ฐานะมั่งคั่ง เมื่อเข้ามาสถิต ณ เขตราศีตุล ขณะที่ดาวพฤหัสบดี สัญลักษณ์แห่งคู่ครอง ก็ยังโคจรเดินหน้าปกติในเขตราศีธนู ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

จากเป็นหุ้นส่วนกิจการ หรือ จะร่วมหุ้นหาลาภผลกับมิตรสหาย เพื่อนที่รู้ใจ สำหรับคนโสด ก็อยู่ในเกณฑ์ดีที่เขา/เธอ ก็อาจกลายเป็นหุ้นส่วนชีวิต ที่พร้อมจะร่วมเรียงเคียงคู่ พร้อมจะสมรส สมรักกันในเวลารวดเร็ว  และสำหรับคนมีคนรัก คู่ครองอยู่แล้ว ก็ควรใส่ใจ ไม่ละเลยโอกาสที่จะได้ช่วย เขา/เธอ โดยเฉพาะที่อาจกำลังเจอปัญหาเรื่องเงิน หรือ สุขภาพ ถึงจะสามารถรักษาสัมพันธ์รักให้ราบรื่น มีความสุขไปได้อีกนาน

แต่จนถึงกลางเดือน หากมองโลกในแง่ดีเกินไป กำลังมีสัมพันธ์รักที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ รักที่ทำให้คลั่งไคล้ในรสเสน่หา ก็ควรยั้งใจสักนิดก่อนจะทุ่มเทให้ทั้งหมดที่มี เพราะเขา/เธอ อาจมองคุณว่าแค่เป็น..ขอนไม้ที่ลอยมาเกาะเพื่อให้รอดชีวิตเท่านั้น

ราศีตุลย์  ราศีที่มีสัญลักษณ์เป็นตาชั่ง บอกถึงความถูกต้อง พอดี เสมอภาค เท่าเทียมกัน ซึ่งรวมถึงความรัก การแสดงออกของความรัก ...ถ้ามากเกินไป น้อยเกินไป ทั้งจากเป็นผู้ให้ หรือ ผู้รับ นั่นคือ ต้นเหตุหนึ่งที่จะทำลายความรักให้พังพินาศ

เดือนพฤศจิกายน เดือนแห่งความรัก ความสุขที่อาจเกิดขึ้นได้จากอารมณ์ซื่อตรง ซื่อสัตย์ที่จะ “รักตัวเอง” ให้มากขึ้น ถึงจะนำไปสู่ความสุขที่ยาวนาน เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข และที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีตุลย์ ที่จะโคจรจากราศีกันย์ ที่ทำมุมเล็งกับดาวอังคาร คู่ชื่น คู่พิศวาท มาสู่ราศีกำเนิดของชาวราศีตุลย์เอง  ก็จะเจอดาวมฤตยูที่สถิต ณ เขตราศีเมษ เล็งทำมุมอย่างมีนัยยะสำคัญ ที่อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่ดาวอังคาร สัญลักษณ์แห่งคู่ครอง ยังโคจรวิปริต พักรในเขตราศีมีน  ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

อยู่ในระยะที่ควรดูแล ปรับปรุงตนเองให้สุขภาพดี สดใส เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไฉไลมากขึ้น ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะทำให้คนรัก คู่ครอง เสน่หามากขึ้น หรือ เป็นคนโสด ก็จะมีเพศตรงข้ามเข้ามาพัวพัน ตามติด ให้ได้รัก ได้เลือกจนพอใจ ที่มีโอกาสจะได้ครองคู่วิวาห์กันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ควรระวัง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีคู่ครองอยู่แล้ว......

ที่อาจได้พบเจอ มีสัมพันธ์กับใครสักคนที่จะมาก่อกวนอารมณ์ที่จะทำให้รักใคร่ไหลหลง แรงล้นด้วยเสน่หา ที่อาจทำให้เผลอใจ ถลำตัว ได้อย่างง่าย ๆ จนอาจถูกข่มขู่ แบล็คเมล์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง สูญเสียเงินทอง ทรัพย์สินมีค่า และที่สุด สูญเสียครอบครัว เสียคนรัก คู่ครองไป ด้วยแค่อารมณ์ชั่ววูบ จาก...รักสนุก

ราศีพิจิก ราศีแห่งการปรับปรุงพัฒนาเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ..จากร่างกาย ความคิด รวมถึงเรื่องของหัวใจ..ความรัก และ ความสัมพันธ์ที่ต้องให้ชัดเจน และ แน่นอน

เดือนพฤศจิกายน   เตรียมพร้อมที่จะถูกความรัก ไล่ ล่า!!! เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข และเป็นสัญลักษณ์แห่งคู่ครอง ที่กำลังโคจรจากราศีกันย์ เข้าสู่ราศีตุลย์ และจะตรงเข้าหาราศีกำเนิดของชาวราศีพิจิกในเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่ดาวอังคาร  ดาวประจำตัวของชาวราศีพิจิก ที่กำลังโคจรวิปริต พักร องศา  ก็แค่ตั้งรับ ไม่ต้องขยับตัว รอคอยนิ่งๆ อยู่ที่ เขต ณ ราศีมีน  นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

ไม่ต้องไขว่ ไม่ต้องคว้าหาโอกาสแต่อย่างใด สำหรับคนโสด ก็จะมีโอกาสได้รัก ได้เลือกจากเพศตรงข้ามที่แค่มาเมียงมอง จนถึงตามติด พัวพัน ที่จะอยู่ในเกณฑ์ดีได้พบรัก เจอเนื้อคู่ แต่หากแสดงอาการลังเล โลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด เอาแต่จับปลาสองมือ ก็มีเกณฑ์สูงว่าพอหมดโปรโมชั่น เพราะเมื่อดาวศุกร์โคจรผ่านไป โอกาสที่จะได้รัก ได้มีคู่ ก็จะหลุดลอยไปเช่นกัน

สำหรับคนมีคนรัก คู่ครองอยู่แล้ว แค่ร่วมแบ่งปันความสุขจากไปไหนไปด้วยกัน จนถึง ลาภผลเงินทองที่หามาได้ แค่นี้ก็จะทำให้สัมพันธ์รักราบรื่น เขา/เธอ ก็พร้อมจะอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุน ให้กำลังใจไม่ห่าง

แต่สำหรับชาวราศีพิจิก ที่กำลังแบ่งใจออกมาเป็นสอง แอบมีรักซ้อนซ่อนรัก ก็อย่าประมาท เพราะความลับไม่มีในโลก และเมื่อใดถูกเปิดเผย ก็อาจเจอ...เจ็บนี้อีกนาน

ราศีธนู ราศีปลายธาตุไฟ ที่มีสัญลักษณ์เป็น “คนยิงธนู” ท่อนบนเป็นคน ครึ่งล่างเป็นม้า บอกถึงการเป็นนักล่า  ที่มีเป้าหมายที่จะเล็ง ก่อนจะยิง บอกถึงการวางแผน มุ่งมั่น ที่จะกระทำการให้เป็นประสบความสำเร็จ แต่เมื่อสำเร็จ ก็พร้อมที่พุ่งทะยานออกไปเพื่อ “ล่า” รายต่อไป

เดือนพฤศจิกายน เดือนแห่งความรักที่สามารถโบยบินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจาก ปีก จากรองเท้าวิเศษของเมอคิวรี่ที่ทรงพลังมากขึ้น เมื่อดาวพุธ สัญลักษณ์แห่งคู่ครองที่ได้โคจรเดินหน้าตามปกติ ในเขตราศีตุล โดยมีดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุข โคจรมาสถิตร่วมอยู่ด้วย ขณะที่พระเกตุได้โคจรย้อนกลับมาสถิตร่วมกับดาวพฤหัสบดี ณ เขตราศีธนู ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า

หากยึดมั่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาอย่างเคร่งครัด ใช้คุณธรรมนำหน้าในการดำเนินชีวิต ก็จะเพิ่มพลังส่งผลให้ชาวราศีธนูได้พบรัก เจอเนื้อคู่ ที่จะมาช่วยร่วมกันทำมาหากิน สร้างเสริมฐานะให้เจริญมั่นคง รุ่งเรือง  ซึ่งมีเกณฑ์สูงว่าจะมาจากการเข้าสังคม สังสรรค์ หรือ มีมิตรสหายเป็นสื่อนำพา

สำหรับคนมีคู่ครองอยู่ก่อน แค่ร่วมกันคิด ช่วยกันแก้ไขปัญหาของบุตร-ธิดา หรือ การแสวงหารายได้ใดๆ ก็ตาม ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สัมพันธ์รักราบรื่น มีความสุข

แต่สำหรับชาวราศีธนูที่เริ่มต้นสัมพันธ์กับผู้ใดก็ตามด้วย แชทออนไลน์ ก็อย่าประมาท โดยเฉพาะคนที่มีคู่ครองอยู่แล้ว เพราะมีเกณฑ์สูงว่าจะทำให้...บ้านแตก ได้


ราศีมังกร ราศีธาตุดิน ที่บอกถึงความมั่นคง แข็งแกร่ง แต่เป็นดินแห้งแข็ง แห้งแล้งในฤดูหนาว ซึ่งมีแรงต้าน ดึงดันที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะแวดล้อมภายนอก จึงทำให้ชาวราศีมังกร ยึดมั่น ยึดติด อนุรักษ์นิยม เชื่องช้า แม้กระทั่งในเรื่องของ...ความรัก

เดือนพฤศจิกายน รักโรแมนติคที่นำไปสู่ประตูวิวาห์ หรือ จะทุกข์ทนจนทนไม่ได้  ก็อาจเกิดขึ้น เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรักที่โคจรมาสถิต ณ เขตราศีกันย์ โดยทำมุมเล็งกันกับดาวอังคาร คู่พิศวาส ที่สถิต ณ เขตราศีมีน และจากกลางเดือนนี้ ก็จะโคจรเข้าสู่ราศีตุลย์ ทำมุมฉากกับดาวเสาร์ เจ้าแห่งชะตากรรม และที่เป็นดาวประจำตัวที่สถิต ณ เขตราศีกำเนิดของชาวราศีมกร ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

หากเดินทางท่องเที่ยว คนโสดก็อาจได้พบรัก เจอคู่รัก คู่เสน่หา ที่มีเกณฑ์สูงว่าจะเป็น..รักต่างวัย ที่เขา/เธอ ก็พร้อมจะสานรัก สานสัมพันธ์กับคุณได้อย่างรวดเร็ว แต่หากจะคิดจะรักจริง หวังแต่ง ก็ไม่ควรรอรี คิดโน่นคิดนี่ เยอะเกินไป ...แค่เดินหน้า แสดงว่าให้เห็นชัดเจนว่าต้องการจะร่วมเรียง เคียงกันเป็นคู่ชีวิต ก็จะมีโอกาสจะสละโสด

และสำหรับคนมีคนรัก คู่ครองอยู่แล้ว หากได้เดินทางท่องเที่ยวร่วมกัน ก็จะอยู่ในเกณฑ์ดีที่จะทำให้สัมพันธ์รักหวาน...โรแมนติคมากขึ้น แต่กลางเดือนไปแล้ว ก็ควรแสดงความใส่ใจเขา/เธอให้มากกว่างาน ภารกิจที่กระทำ ถึงจะสามารถสัมพันธ์รักให้ราบรื่นไปได้อีกนาน


ราศีกุมภ์....ราศีธาตุลมที่มีสัญลักษณ์เป็นคนอุ้มหม้อน้ำและ..เท อย่างไม่มีขีดจำกัด บอกถึงการให้เป็นผู้ให้ ที่บางครั้งให้มากเกินไปจนไร้ค่า

เดือนพฤศจิกายน เดือนแห่งของรักจักได้มา หรือ อาจเพราะเสน่หา ก็อาจทำให้สูญเสียเงินทองของมีค่ามหาศาลก็ได้ เพราะจากดาวศุกร์ ดาวแห่งความรัก ความสุขได้โคจรมาสถิต ณ เขตราศีกันย์ โดยทำมุมเล็งอย่างมีนัยยะสำคัญกับดาวอังคาร ที่บ่งบอกถึงพลัง แรงแห่งอารมณ์ ณ เขตราศีมีนที่เน้นในเงิน ๆ ทองๆ ของชาวราศีกุมภ์ และจากกลางเดือนไปแล้ว ก็จะโคจรไปสถิตร่วมกับดาวพุธ ณ เขตราศีตุลย์ ที่จะทำมุมเล็งกับดาวมฤตยูในเขตราศีเมษ ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

ลาภโดยเสน่หา ด้วยรักใคร่มากล้นกับเขา/เธอที่อยู่ชิดใกล้ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องทุ่มเทเงินทอง ของมีค่าให้อย่างเต็มใจและไม่มีเงื่อนไข แต่สำหรับสัมพันธ์รักที่เพิ่งเริ่มต้น ก็ควรยั้งสติ คิดให้นาน ๆ พิจารณาให้รอบคอบ เพราะจากกลางเดือนไปแล้ว ทุกคำหวาน ทุกคำมั่นสัญญาที่ทำให้ปลื้มปริ่ม ก็พร้อมจะพลิกผัน เปลี่ยนแปลงไป จน..เชื่อถือไม่ได้

แต่สำหรับชาวราศีกุมภ์ที่มีอดีตรักฝังใจ ก็อาจได้รับการติดต่อจากเขา/เธอ ที่จะขอกลับมาคืนดี ขอเริ่มสัมพันธ์กันใหม่ ที่มีเกณฑ์สูงว่าน่าจะมีเรื่องเงินทอง ผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงควรตรวจสอบ พิจารณาให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจ

ราศีมีน ราศีธาตุน้ำ ธารน้ำที่กว้างใหญ่ ไกล ลึก ไร้ขอบเขต ที่แปรปรวนไปตามแรงลม สภาวะอากาศ  บอกถึงอารมณ์ที่จะอ่อนไหว ฟุ้งซ่าน ไปตามความรู้สึกของคนอื่น

เดือนพฤศจิกายน เหตุจากดาวอังคาร ที่บ่งบอกถึงพลัง แรงแห่งอารมณ์ที่ไม่คงเส้นคงวา ที่ยังก่อกวนอยู่ในราศีกำเนิดของชาวราศีมีน ได้ทำมุมเล็งกับดาวศุกร์ ที่โคจรมาสถิต ณ ตำแหน่งราศีคู่ครอง หรือ คู่อริ และจากกลางเดือนไปแล้ว ก็จะโคจรไปสถิตร่วมกับดาวพุธ ณ เขตราศีตุลย์ ซึ่งตามคำครูแต่โบราณกาลได้กล่าวไว้ว่า ...พุธ ศุกร์ อีกคู่อย่าดูเบา มักมากเมาเสพสมจนซมซาน! ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ในเดือนนี้

ถึงดาวพฤหัสบดี ดาวประจำตัวของชาวราศีมีนได้โคจรเดินหน้าตามปกติแล้ว แต่ก็อาจส่งผลเสียให้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการมองโลกในแง่ดีเกินไป ก็อาจทำให้หลงเชื่อ เคลิ้มไปกับ “คำหวาน” ของเพศตรงข้ามที่เข้ามาพัวพันด้วย ทั้งจากเขา/เธอ ที่เพิ่งเริ่มต้นมีสัมพันธ์ด้วย หรือ คนเก่าที่กลับเข้ามาขอคืนดี ที่ควรตรวจสอบให้รอบคอบ หากถูกร้องขอความช่วยเหลือใดๆ เพราะมีเกณฑ์สูงว่า จะถูกล่อลวง เพื่อหวังลาภผลเท่านั้น

แต่สำหรับสัมพันธ์รักที่มีปัญหา ที่กำลังจะแยกทางกัน ก็ควรประนีประนอม ยอมความ ยอมที่จะให้เป็น “ให้” โดยที่ไม่ต้องให้เขา/เธอไปฟ้องร้อง เพราะมีเกณฑ์สูงว่า ..คุณจะเป็นฝ่ายแพ้มากกว่า

                                                                 ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.sanook.com/