วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

 


รัฐบาล เร่งขับเคลื่อน "พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค" เน้นพัฒนาศักยภาพแต่ละพื้นที่ สู่การพัฒนาประเทศไทยให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ครั้งที่ 1/65 ณ ทำเนียบรัฐบาล

การขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 ภาค (เหนือ อีสาน กลาง-ตะวันตก และใต้) เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่จะทำให้ประเทศไทยมีการเจริญเติบโตพร้อมเพรียงกันทุกภาค

นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้เกิดวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ให้ได้ตามศักยภาพที่แต่ละพื้นที่มีอยู่ โดยการพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม และมีการดูแลเรื่องที่พักที่ปลอดภัยให้กับแรงงาน เพื่อให้คนกลับไปทำงานในพื้นที่มากขึ้น

มติที่ประชุม สรุปได้ดังนี้

เห็นชอบการประกาศพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 ภาค และให้นำเรื่องการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา แบ่งเป็น

- จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ

- จ.ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี และหนองคาย เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

- จ.พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และหาญจนบุรี เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง - ตะวันตก

- จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้

เห็นชอบการขยายระยะเวลาสิทธิประโยชน์การยกเว้นค่าเช่าที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากหนองคาย มุกดาหาร นครพนม และกาญจนบุรี ให้สิ้นสุดภายในปี 2566

เห็นชอบการปรับปรุงแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม ประกอบด้วย โครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR – Map) จำนวน 10 เส้นทาง มีระยะทางรวม 6,530 กิโลเมตร

เห็นชอบแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุ่งเน้นการตลาด การประชาสัมพันธ์ และ Roadshow เพื่อสร้างโอกาสของประเทศไทยในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ

สำหรับ การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 แห่ง ปัจจุบันมีการลงทุนของภาคเอกชนแล้วประมาณ 36,882 ล้านบาท และยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกิจการถุงมือยางและการผลิตไฟฟ้าจากขยะ และภาครัฐได้การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรซึ่งมีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 89

  ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/ayutthayanews/