โรคสมองฝ่อ (Brain
Atrophy) เป็นโรคความเสี่ยงสูงในผู้สูงอายุเนื่องจากเซลล์สมองจะเสื่อมสภาพลงตามอายุที่มากขึ้น
นอกจากนี้การไม่ดูแลตนเองยังเป็นปัจจัยความเสี่ยงโรคนี้ด้วย
อาการของโรคนี้สังเกตได้จากการหลงลืมในผู้สูงอายุ
หากต้องการลดความเสี่ยงโรคร้ายนี้ต้องหมั่นดูแลสุขภาพและทำกิจกรรมที่เสริมสร้างความคิดเพื่อพัฒนาการทำงานของสมอง
สมองฝ่อเกิดขึ้นได้อย่างไร
โรคสมองฝ่อพบได้มากในผู้สูงอายุ
โดยเฉพาะอายุ 75 ปีขึ้นไป
เกิดจากปริมาณเซลล์เนื้อสมองลดลงถือเป็นการเสื่อมสภาพของร่างกายตามช่วงอายุ
ซึ่งมีปัจจัยและความเสี่ยงของโรคสมองฝ่ออยู่อีกหลายข้อ ได้แก่
เกิดจากพันธุกรรม : ทำให้บางคนเป็นแต่กำเนิด หรือเป็นตอนอายุค่อนข้างมาก
เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน : การทานอาหารในปริมาณมากเกินไป การอดอาหาร การพักผ่อนไม่เพียงพอ
และการสูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอล์
เกิดจากปัจจัยอื่น : โรคร้ายบางชนิด เช่น โรคติดเชื้อหรือโรคหลอดเลือดสมอง
การเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อสมอง การรับสารพิษ และการขาดออกซิเจน
หากเกิดโรคสมองฝ่อตรงจุดที่ส่งผลต่อการควบคุมอวัยวะในร่างกายจะส่งผลต่ออวัยวะนั้นโดยตรง
นอกจากนี้อาจเกิดอาการสมองเสื่อมได้หากส่วนของความทรงจำเกิดการฝ่อ
ไม่ใช้สมองจะทำให้สมองฝ่อหรือไม่
หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “ไม่ใช้สมอง
ระวังนะสมองจะฝ่อ”
การไม่ใช้สมองไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้สำหรับคนทั่วไปแต่อย่างใด
แต่เป็นการกระทำที่ส่งผลต่อผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอายุ 75
ปีขึ้นไป เนื่องจากความเสื่อมของสมองไปตามอายุอาจมีอาการหลงลืมไปบ้างการฝึกใช้สมองในการทำกิจกรรมต่าง
ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคสมองฝ่อได้
อาการของโรคสมองฝ่อ
เกิดอาการหลงลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
หรือสมองเสื่อม
มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปไม่สามารถดูแลตนเองได้เหมือนเมื่อก่อน
ผู้ป่วยโรคสมองฝ่อบางรายอาจเกร็งกล้ามเนื้อแขนและขา
รักษาโรคสมองฝ่ออย่างไร
การรักษาสามารถรักษาได้ตามสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสมองฝ่อร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
รวมถึงปรับสถานที่อยู่อาศัยให้เหมาะและสะดวกกับผู้ป่วยโรคนี้มากยิ่งขึ้น
หากเป็นโรคร้ายนี้จากการเสื่อมสภาพให้ดูแลผู้ป่วยมากขึ้นในทุกด้านเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ
การป้องกันโรคสมองฝ่อ
ทำกิจกรรมที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาหรือใช้ความคิด
เช่น เล่นหมากรุก ทายปัญหา และคิดเลข เป็นต้น
หมั่นดูแลสุขภาพทานอาหารให้ครบ 5
หมู่ และออกกำลังกายเป็นประจำ
งดสูบบุหรี่
และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรตรวจสุขภาพเพื่อติดตามสภาวะของร่างกายหรือค้นหาความเสี่ยงโรคสมองฝ่อ