โควิดสายพันธุ์เดลต้า (Delta) มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ อีกทั้งยังมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลต้า พลัส (Delta Plus) ที่สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือคล้ายอาการของโควิด-19 สายพันธุ์ทั่วไป โควิดสายพันธุ์เดลต้ายังเป็นที่จับตามองต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษในประเทศไทยเนื่องจากมีแนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้มากยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
โควิดสายพันธุ์เดลต้าคืออะไร
“โควิดสายพันธุ์เดลต้า
(Delta)” หรือที่เรารู้จักในชื่อ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย”
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ B.1.617.2 พบครั้งแรกในประเทศอินเดียและเป็นที่น่าจับตามองในประเทศไทย
ณ เวลานี้ นอกจากนี้ยังมีการพบการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลต้า พลัส (Delta
Plus) ที่มีการกลายพันธุ์บริเวณหนาม K417N ส่งผลให้ติดเชื้อง่าย
และหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดี
โควิดสายพันธุ์เดลต้ามาจากไหน
โควิดสายพันธุ์เดลต้าเกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19
ในประเทศอินเดีย
ก่อนจะแพร่ระบาดไปหลายประเทศในเวลานี้ทั้งประเทศอังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทยพบการระบาดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจากแคมป์คนงานหลักสี่
วัคซีนที่สามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้
เนื่องจากการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์เดลต้า
พลัสเพิ่มคุณสมบัติในการหลบภูมิคุ้มกันได้ดี
และจากผลการทดลองยืนยันว่าวัคซีนประเภท mRNA (ไฟเซอร์,โมเดอร์นา) และประเภทวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะมีประสิทธิภาพในการรับมือได้ดีกว่าวัคซีนชนิดอื่น
วัคซีนโมเดอร์นา
: มีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้หลังจากได้รับครบ
2 โดส แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าป้องกันได้มากแค่ไหน
วัคซีนไฟเซอร์ : มีการคาดการณ์ว่าสามารถรับมือกับโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ใกล้เคียงกับวัคซีนโมเดอร์นาเนื่องจากเป็นวัคซีนประเภท
mRNA เหมือนกัน
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
: จากข้อมูลของสาธารณสุขประเทศอังกฤษ (PHE) หลังได้รับครบ
2 เข็มสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ประมาณ
64 %
วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
: จากผลการทดลองของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เองพบว่าสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ประมาณ 8
เดือน แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าป้องกันได้มากแค่ไหน
ในส่วนของวัคซีนซิโนแวคนั้นมีการยืนยันจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยว่าบริษัทซิโนแวคยังไม่มีผลการทดลองที่ยืนยันได้ว่าสามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้
เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนชนิดนี้ต่อสายพันธุ์อังกฤษนั้นน้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่น
จึงอาจมีแนวโน้มว่าจะสามารถป้องกันการกลายพันธุ์สำหรับสายพันธุ์เดลต้าในประสิทธิภาพที่น้อยด้วยเช่นกัน
โควิดสายพันธุ์เดลต้ามีอาการอย่างไร
ถึงแม้เชื้อโควิดจะมีหลายสายพันธุ์
แต่โดยมากแล้วอาการที่แสดงออกมามักใกล้เคียงกัน
สำหรับโควิดสายพันธุ์เดลต้านั้นจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา ได้แก่
ปวดศีรษะ
เจ็บคอ
มีน้ำมูกไหล
ไม่ค่อยพบการสูญเสียการรับรส
ด้วยอาการที่กล่าวมานั้นเป็นอาการที่อาจสังเกตได้ยาก
หรืออาจทำให้ผู้ป่วยคิดไปเองว่าตนเองไม่ได้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า
ดังนั้นเมื่อมีไข้ไม่สบายให้คอยสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการอื่น ๆ
ที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ให้รีบพบแพทย์ทันที
โควิดสายพันธุ์เดลต้าติดง่ายจริงหรือไม่
ในเบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟา)สามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าเชื้อโควิดปกติประมาณ
50 % แต่สำหรับโควิดสายพันธุ์เดลต้านั้นจะแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษประมาณ
60 % อีกทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเปิดเผยว่าเชื้อไวรัสโควิด-19
สามารถลอยตัวอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายได้แม้ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วย
หรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยตลอดเวลา
สถานการณ์โควิดสายพันธุ์เดลต้าในไทย
เนื่องจากเหตุการณ์การระบาดจากแคมป์คนงานหลักสี่
และด้วยความสามารถในการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิดสายพันธุ์เดลต้าจึงทำให้เป็นที่จับตามองและเป็นที่เฝ้าระวังในระดับสูง
เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าในอีก 2-3 เดือนอาจมีแนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้มากกว่าสายพันธุ์อังกฤษที่มีมากที่สุดในไทย
ณ ขณะนี้