รังแคมาจากไหน? หนังศีรษะของเราจะมีการผลัดเปลี่ยนเซลผิวใหม่ทุกๆ 28 วัน เหมือนกับผิวหนังบริเวณอื่นๆ
เมื่อเซลเก่าที่ตายแล้วถูกผลัดออกไปก็จะสร้างเซลใหม่ขึ้นมา
แต่ถ้าการผลัดเซลผิดปกติไป ก็จะเกิดรังแคตามมาได้ สาเหตุก็มาจาก
-ผิวหนังแห้งเพราะอากาศในฤดูหนาว หรือเพราะใช้ชีวิตประจำวันในห้องปรับอากาศที่เย็นและมีความชื้นต่ำ
-หนังศีรษะได้รับเคมีรุนแรงเป็นประจำ เช่น ดัดผมบ่อย ทำสีผมบ่อย ใช้แชมพูแรงๆ สเปรย์ฉีดผม
หนังศีรษะก็จะถูกกระทบมากทำให้แห้งและทำให้มีการเร่งผลัดเซลผิวในอัตราเร็วกว่าปกติ
-การเร่งผลัดเซลผิวในอัตราที่ผิดปกติ นี่แหละที่จะทำให้เซลตายแล้วที่ถูกผลัดออกจะสะสมเป็นกลุ่มก้อนหนาๆ
คือรังแคนั่นเอง จากนั้นอาการคันศีรษะก็จะตามมา
การสะสมของรังแคยังไปอุดรูขุมขนของเส้นผม
ทำให้น้ำมันจากต่อมไขมันที่รากผมไม่สามารถระบายออกมาได้
ทำให้หนังศีรษะขาดน้ำมันหล่อลื่ จึงแห้งคันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
-สำหรับคนที่มีปัญหารังแคเรื้อรัง
ก็อาจทำให้หนังศีรษะอักเสบและมีเชื้อราเจริญเติบโตมากผิดปกติ ซึ่งในสภาวะปกติหนังศีรษะคนเราจะมีเชื้อราอาศัยอยู่ในปริมาณน้อยและไม่สร้างปัญหา
แต่ในสภาวะที่หนังศีรษะมีรังแคมาก เชื้อราจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดอาการอักเสบของหนังศีรษะ
(Pityriasis
capitis)
เมื่อหนังศีรษะคันและแห้งต้องทำยังไงดี
1. ควรใช้แชมพูขจัดรังแค อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
2. ลดความร้อนของไดร์เป่าผม
3. ควรใช้แชมพูที่อ่อนโยนและมีมอยส์เจอร์
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ
4. พยายามไม่ใช้น้ำอุ่นสระผม
เพราะน้ำอุ่นจะทำให้น้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะถูกชะล้างออกมากเกินไป
ทำให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น
5. ห้ามเกาศีรษะแรงๆ ด้วยเล็บ
เวลาไปใช้บริการที่ร้านทำผมก็ให้ขอร้องคนสระผมด้วยว่า ไม่ต้องใช้เล็บเกานะคะ
หรือให้ช่วยเกาเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว
6.อย่าคิดว่ามีรังแคไม่ควรใช้ครีมนวด
แต่จำเป็นที่จะต้องบำรุงหนังศีรษะด้วยครีมนวดผมชนิดเข้มข้น
โดยให้นวดทิ้งไว้อย่างน้อย 15-20
นาที จึงล้างออก
เนื้อครีมและน้ำมันจะช่วยขจัดรังแคส่วนเกินให้หลุดลอกออกไปได้ และ
ช่วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ