วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย...เสี่ยง 5 โรค

 


 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอดทางปากหรือทางทวารหนักเดิมมีชื่อว่า "กามโรคในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

                 การติดโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ช่วงอายุ 15-24 ปี  ส่วนหนึ่งมาจากการที่วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยทำให้ติดโรคและขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเอง การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย จึงเสี่ยงที่จะติดโรค โดยเฉพาะ 5 โรค ดังนี้

                   1. โรคหนองในแท้ผู้ป่วยเพศชายที่เป็นโรคนี้จะมีอาการปัสสาวะแสบและมีหนองออกจากปลายท่อปัสสาวะรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะส่วนเพศหญิงอาการจะน้อยกว่าบางรายมีเชื้อในช่องคลอดแต่ไม่มีอาการและสามารถแพร่เชื้อทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย

                   2. โรคหนองในเทียมมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองใสไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ บางรายอาจไม่มีอาการ ถ้าไม่ได้รักษาโรคจะลุกลามเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในลักษณะเดียวกับโรคหนองในแท้

                   3. แผลริมอ่อนผู้ป่วยจะมีแผลบริเวณอวัยวะเพศและแผลมีลักษณะเฉพาะจะค่อนข้างเจ็บมากมักพบหลายๆแผลพร้อมๆกันสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ

                   4. เริมผู้ป่วยจะเริ่มด้วยอาการตุ่มน้ำใสเป็นกลุ่มบริเวณอวัยวะเพศต่อมาตุ่มนี้จะแตกและเป็นแผลค่อนข้างเจ็บบางรายหายเองได้แต่ในรายที่ภูมิต้านทานร่างกายน้อยผิดปกติจำเป็นต้องได้รับยาต้านเริมจากแพทย์เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น

                   5. ซิฟิลิสระยะแรกจะมีแผลที่อวัยวะเพศ เป็นขอบแข็ง ไม่เจ็บ ถ้าไม่ได้รักษาเริ่มมีผื่นขึ้นตามลำตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า ทวารหนัก และช่องปาก ผมร่วง ปวดข้อ หากยังไม่ได้รักษาอีก โรคจะเข้าสู่ระยะสงบ ไม่มีอาการ ทราบได้จากการตรวจเลือดเท่านั้น หลังจากนั้นอีกหลายปีจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค มีผิวหนังเป็นก้อนนูนแตกเป็นแผล กระดูกอักเสบ ตาบอด หูหนวก สมองพิการ เส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจโป่งพอง และเสียชีวิตในที่สุด

           การมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย คือไม่สำส่อนทางเพศ และสวมใส่ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ทุกครั้งอย่างถูกต้อง เป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ดีที่สุด แต่หากพบว่ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือมีความเสี่ยงในการติดโรค ควรมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการงดการมีเพศสัมพันธ์ทันทีเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น และรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจรักษาต่อไป

  ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://healthydee.moph.go.th