เมื่อผู้ป่วยได้รับยาจากโรงพยาบาลหรือร้านขายยาก็มักจะเข้าใจว่ายาดังกล่าวสามารถใช้ได้ตราบเท่าที่ยังไม่หมดอายุ
แต่ในความเป็นจริงยาอาจมีคุณลักษณะ (เช่น รูปร่าง สี กลิ่น รสชาติ) คุณภาพ (เช่น
ปริมาณตัวยาสำคัญ สารเจือปน) หรือประสิทธิผลการรักษา ที่แตกต่างไปจากตอนที่ผลิตออกมาใหม่ๆ
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม (เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แสง)
หรือการเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง ปัจจัยเหล่านี้มีผลทำให้ยาเสื่อมสภาพก่อนหมดอายุ
ซึ่งไม่ควรนำมาบริโภคเพราะจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
การเสื่อมสภาพของยาเกิดขึ้นได้ใน 3 ลักษณะ คือ
1.
การเสื่อมสภาพทางเคมี ได้แก่ การลดลงของปริมาณตัวยาสำคัญ และการเพิ่มขึ้นของสารสลายตัว
2.
การเสื่อมสภาพทางกายภาพ ได้แก่ ความผิดปกติของรูปร่าง สี กลิ่น รสชาติ
ความใสหรือขุ่น หรือการเกิดตะกอน
3.
การเสื่อมสภาพทางจุลชีววิทยาได้แก่ การปนเปื้อนของเชื้อเกินระดับปลอดภัย
การเสื่อมสภาพของยาทั้งสามลักษณะมีความเกี่ยวข้อง
เช่น การเพิ่มขึ้นของสารสลายตัวอาจทำให้กลิ่น รสชาติของยาเปลี่ยนไป
หรือก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะนำยาที่เสื่อมสภาพมาบริโภค
การตรวจสอบการเสื่อมสภาพของยามักทำในห้องปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตามการเสื่อมสภาพทางกายภาพบางประการเป็นสิ่งที่สังเกตได้ง่าย
สะดวกและรวดเร็ว ประชาชนทั่วไปสามารถทำได้เอง บทความนี้จึงขอเสนอข้อแนะนำเบื้องต้นในการสังเกตการเสื่อมสภาพของยาทางกายภาพเพื่อเป็นแนวทางในการใช้ยาอย่างปลอดภัย