อากาศที่หนาวเย็นลงทำให้เรารู้ว่าเริ่มเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีแล้ว และปีนี้เวลาก็ยังคงผ่านไปเร็วเช่นเคย แต่เชื่อว่าหลายๆ คนคงชอบอากาศเย็นสบายเช่นนี้ เพราะอากาศไม่ร้อนและอากาศที่แห้งทำให้ไม่มีเหงื่อให้เหนียวเหนอะนะ แต่ในขณะเดียวกันหากเราไม่ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ช่วงเวลาที่อากาศเย็นอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้ร่างกายป่วยได้ง่าย นอกจากนี้อากาศเย็นมักเอื้อต่อการอยู่รอดและการแพร่กระจายของไวรัส อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่หรือปอดบวม เป็นต้น ดังนั้นเราควรดูแลสุขภาพตัวเองให้พร้อม เพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว
การดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และทำให้เราต่อสู้กับโรคภัยที่มาจากอากาศที่หนาวเย็นได้นั้น เริ่มจากการออกกำลังกายทุกวันหรือสัปดาห์ละ 3 - 5 วันๆ ละอย่างน้อย 30 นาที เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ในช่วงอากาศเย็นแบบนี้ การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและ สดชื่นแจ่มใสขึ้นได้ ที่สำคัญ เราควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (8 - 10 ชั่วโมง) ควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุกสะอาด ปราศจากสารอันตราย รวมถึงการดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และเน้นการรับประทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ในช่วงหน้านาว อากาศที่แห้งอาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากผิวที่แห้งมาก ส่งผลให้เกิดอาการคัน เมื่อคันและเกาจนถลอก อาจร้ายแรงถึงขั้นติดเชื้อได้ ดังนั้นในช่วงอากาศเย็นเราควรใส่ใจดูแลร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนังด้วยการบำรุงรักษาผิวหนัง เช่น ทาโลชั่นหลังอาบน้ำ เป็นต้น และควรทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยการสวมเสื้อผ้าที่หนาเพียงพอกับความอบอุ่นที่ร่างกายต้องการ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับความเย็นมากเกินไป
เพียงเท่านี้ การเตรียมตัวเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและอากาศที่หนาวเย็น โดยการสร้างพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ และนำไปปฏิบัติเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง รวมถึงบอกต่อบุคคลในครอบครัวหรือชุมชน ก็จะทำให้ตัวเราและคนรอบข้าง สามารถป้องกันและปลอดภัยจากการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาวได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://healthydee.moph.go.th
