ประกันสังคม ชี้ ผู้ประกันตนควรรู้
ส่งประกันสังคมกี่เดือนถึงใช้สิทธิได้
นายชลอ ลิ้มศิริ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ
สำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงการส่งเงินสมทบประกันสังคมและเงื่อนไขการเกิดสิทธิประโยชน์
ว่า เงินสมทบ คือเงินที่นายจ้าง ลูกจ้าง ต้องนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน
โดยนายจ้างหักจากค่าจ้างของลูกจ้างในอัตราร้อยละ 5 ของค่าจ้างในแต่ละเดือน ซึ่งฐานค่าจ้างที่จะนำมาคำนวณต่ำสุดเดือนละ 1,650
บาท และสูงสุดไม่เกิน เดือนละ 15,000 บาท
(เงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 83 บาท
และไม่เกินเดือนละ 750 บาท)
รัฐบาลจะออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอีกส่วนหนึ่งด้วย
ซึ่งลูกจ้างผู้ประกันตน มาตรา 33 จะได้รับสิทธิประโยชน์
7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร
ชราภาพ และการว่างงาน เงื่อนไขการเกิดสิทธิแต่ละกรณีแตกต่างกัน
สำหรับกรณีเจ็บป่วย
ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิ์เมื่อจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่รับบริการทางการแพทย์
ส่วนกรณีคลอดบุตร
ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบครบ 5 เดือน ภายใน 15
เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร มีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 15,000
บาท และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร ในอัตราร้อยละ 50
ของค่าจ้างเฉลี่ย ระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง
หากเป็นผู้ประกันตนชายยื่นเบิกจะได้รับเพียงค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายเท่านั้น
ส่วนกรณีสงเคราะห์บุตร
ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 36
เดือน (3 ปี) เบิกได้คราวละไม่เกิน 3 คน ๆ ละ 800 บาทต่อเดือน และบุตรอายุต้องไม่เกิน 6
ปีบริบูรณ์
สำหรับกรณีทุพพลภาพ
เงื่อนไขการเกิดสิทธินั้น ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบ 3
เดือนภายใน 15 เดือน
โดยจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 เป็นรายเดือนตลอดชีวิต
ส่วนกรณีเสียชีวิต
ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือนก่อนเดือนถึงแก่ความตาย ทายาทได้รับค่าทำศพเหมาจ่าย 50,000 บาท ,เงินบำเหน็จกรณีเสียชีวิต
และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามระยะเวลาจ่ายเงินสมทบ
ส่วนกรณีชราภาพ
ประโยชน์ทดแทนจะจ่ายเมื่อผู้ประกันตนอายุ 55 ปีบริบูรณ์
และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง หรือเสียชีวิต หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ โดยแบ่งเป็น 2
ประเภท คือ เงินบำเหน็จชราภาพ เป็นเงินก้อนที่จ่ายครั้งเดียวจบ
และเงินบำนาญชราภาพ เป็นเงินที่จ่ายทุกเดือนตลอดชีวิต
ทั้งนี้
การจะได้รับเงินก้อนหรือเป็นรายเดือนขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินสมทบ
ในส่วนกรณีว่างงาน ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนใช้สิทธิ์ โดยแบ่งเป็นกรณีถูกเลิกจ้างรับ
70% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 200 วัน
ส่วนกรณีลาออกรับ 45% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 90 วัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/ayutthayanews/