วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565

 


พล.อ.อนุพงษ์ สั่งการผู้ว่าฯ เตรียมรับมือภัยแล้ง ย้ำ กำหนดแผนให้ประชาชนมีน้ำอุปโภค บริโภคให้เพียงพอ

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2565 ปริมาณฝนรวมประเทศไทยจะต่ำกว่าค่าปกติและคาดว่าจะเข้าสู่ฤดูร้อน ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น และตั้งแต่เดือนมีนาคมจะมีอากาศร้อนอบอ้าวและแห้ง ความชื้นในอากาศมีน้อย และมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน

เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 จึงสั่งการไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทุกจังหวัด เฝ้าระวัง ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ปริมาณฝนที่ตก และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง วางแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยใช้กลไกของคณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการของจังหวัด กำหนดแนวทางการใช้น้ำในลักษณะต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และให้ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุภัยแล้งของจังหวัดให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่

พร้อมสั่งการให้สำรวจพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนที่เคยเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นประจำ รวมไปถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปริมาณฝนตกน้อยจนไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ ประสานโครงการชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ และสำหรับการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ให้ดำเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ปี 2564/65 ของกระทรวงเกษตรฯ กำหนดมาตรการรองรับในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะพืชสวนที่เป็นไม้ยืนต้นและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จัดทำฝนหลวงในพื้นที่เกษตรและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อกักเก็บน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด .

หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง ติดต่อขอรับความช่วยเหลือ สายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่งโมง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/ayutthayanews/