วันมาฆบูชา ขึ้น
15
ค่ำ เดือน 3 เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา
พุทธศาสนิกชนทั้งหลายถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในรอบปี
เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงวางรากฐานพระพุทธศาสนา คือ
เป็นวันที่พระพุทธองค์ประทานโอวาทปาติโมกข์ในที่ประชุมพระสาวก ซึ่งประกอบด้วยองค์ 4
ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต
แล้วส่งพระสาวกเหล่านั้นไปประกาศพระศาสนา คือ
สอนศีลธรรมแก่ประชาชนตามแว่นแคว้นต่าง ๆ
คำว่า
“จาตุรงคสันนิบาต” แปลว่า การประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ได้แก่
1. พระสงฆ์ที่มาประชุมวันนั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ
คือ ได้รับอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
2. พระสงฆ์เหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
3. พระสงฆ์ที่ประชุมวันนั้นมีจำนวนถึง
1,250 องค์ มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
(เป็นพระที่เคยเป็นชฎิลมาก่อน 1,000 องค์
พระที่เคยเป็นปริพาชกมาก่อน 250 องค์)
4. วันนั้นดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์เต็มบริบูรณ์
การประชุมครั้งสำคัญที่สุดในสมัยพุทธกาล ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาตนี้ได้มีขึ้น
ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ ซึ่งเป็นนครหลวงของแคว้นมคธ
ในเวลาบ่ายของวันเพ็ญ เดือน 3 ในปีแรกที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
คือ หลังจากวันตรัสรู้ได้ 9 เดือน
การประชุมเช่นนี้มีครั้งเดียวและเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สุด
เพราะพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมโอวาทปาติโมกข์ในที่ประชุมนี้
คำว่า
“โอวาทปาติโมกข์”
แปลว่า โอวาทที่เป็นประธานหรือคำสอนที่เป็นหลักใหญ่เป็นชื่อหัวข้อธรรม
อันเป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา จึงเรียกโอวาทปาติโมกข์นี้ว่า
เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
เพราะพระพุทธเจ้าทรงย่นย่อคำสอนในพระพุทธศาสนาทั้งหมดลงในโอวาทปาติโมกข์นี้
และเพราะเหตุนี้นักปราชญ์จึงได้ยกย่องโอวาทปาติโมกข์ว่าเป็นอุตตมอุเทศ คือ
เป็นภาษิตนิพนธ์พิเศษไม่มีภาษิตอื่นยิ่งขึ้นไปกว่า