ครม. ไฟเขียว
เพิ่มเงิน อสม. อีกเดือนละ 500 บาท 6 เดือน
นางสาวไตรศุลี
ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา
แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ภายใต้โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชยและเสี่ยงภัย
สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ในการเฝ้าระวัง
ป้องกันและควบคุมโรคโควิด -19 ในชุมชน วงเงินจำนวน 3,150
ล้านบาท โดยจะนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่
อสม.จำนวน 1,039,729 คน
และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.)จำนวน 10,577 คน
รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,050,306 คน ในอัตราเดือนละ 500 บาท ต่อคนระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564
– มีนาคม 2565 เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้รับเดือนละ
1,000 บาท จากภาระงานปกติ
กิจกรรมที่
อสม.จะดำเนินการในส่วนภาระงานที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย อสม.เคาะประตูบ้าน
แจ้งสถานการณ์โรค ให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19
และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ประชาชน, อสม.สำรวจและลงทะเบียนกลุ่มเป้าหมายในชุมชนให้ได้รับการฉีดวัคซีน
ติดตามอาการกลุ่มเสี่ยงหลังฉีดวัคซีนที่บ้านในชุมชน
ส่งต่อผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์และติดตามกลุ่มเป้าหมายจนกว่าจะได้รับวัคซีนเข็มที่
2, สำรวจ เฝ้าระวัง คัดกรองและติดตามกลุ่มเสี่ยงในชุมชนอย่างต่อเนื่อง,ร่วมสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขในการติดตามผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน
หรือเข้ารับการแยกกักในชุมชน, ดูแลให้คำแนะนำและประเมินคัดกรองสุขภาพจิตเบื้องต้น
ทั้งสำรวจ คัดกรองความเครียด สำรวจคัดกรองโรคซึมเศร้าและประเมินภาวะซึมเศร้า
รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชน
ทั้งนี้
เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม.ในการปฏิบัติหน้าที่
ตลอดจนเป็นแรงจูงใจที่สามารถผลักดันให้เกิดการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่
ทำให้เกิดสุขภาวะที่ดีกับประชาชน โดยที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้
อสม. และ อสส.ร่วมดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโควิด-19
ในชุมชนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพตนเองแก่ประชาชนจำนวน
7,424,625 คน, เฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง,
เคาะประตูบ้านต้านภัย COVID-19, ค้นพบกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการและส่งต่อให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข,
อสม. แนะนำกลุ่มเป้าหมายตรวจ ATK และรายงานผลการตรวจผ่าน
Application “สมาร์ท อสม.”, เชิญกลุ่มผู้สูงอายุ
60 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีโรคประจำตัวมารับวัคซีนเข็มที่ 1
และเข็มที่ 2