วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 5/2564

 

เมื่อวันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 5/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม

         ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบข้อเสนอการพัฒนาทางดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามงานบริการ Agenda สำคัญ ซึ่งประกอบด้วย

         1. การใช้ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD ID) เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลใน Agenda ต่าง ๆ เพื่อเป็นชื่อและรหัสผ่านชุดเดียวสำหรับนิติบุคคลหรือผู้ประกอบการในการขอรับความช่วยเหลือหรือขอรับการสนับสนุน
         2. การพิสูจน์และยืนยันตัวตนได้หลายช่องทางภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ที่ควรมีช่องทางการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยวิธีอื่น ๆ เพื่อเป็นการขยายขอบเขตของการใช้ Digital ID ให้ประชาชนสามารถเลือกใช้ตามช่องทางที่สะดวก
         3. การใช้แอปพลิเคชันเพื่อยกระดับการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ควรนำลักษณะเฉพาะ (Feature) ของแอปพลิเคชันที่มีการให้บริการในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น

         ทั้งนี้ อ.ก.พ.ร.ฯ เห็นว่า การดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ภาครัฐควรดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน เช่น สมาคมธนาคารไทย เพื่อใช้จุดแข็งของภาคเอกชน ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงงานบริการผ่าน mobile banking หรือแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ได้สะดวกรวมถึงมีประชาชนเข้าถึงจำนวนมาก นำมาต่อยอดสำหรับพัฒนางานบริการภาครัฐ

         นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบถึง (1) คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาทางดิจิทัลตามงานบริการ Agenda สำคัญ (2) ผลการศึกษาของ UNDP เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของรัฐบาลไทย และ (3) ผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2564 ซึ่ง อ.ก.พ.ร.ฯ เห็นว่า ผลการศึกษาของ UNDP สามารถใช้เป็นข้อมูลให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ในการปรับปรุงแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พ.ศ. 2566 - 2570 รวมทั้งการพัฒนาเป็น Digital Government นั้น หน่วยงานจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และพร้อมสำหรับการเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งจะนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการลดระยะเวลาการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.opdc.go.th