วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564

บริหารสุขภาพจิต......ในยุคโควิด 19

 


ในช่วงการระบาดโควิด 19 หลายคนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน หรือจำเป็นต้องอยู่บ้าน มีการเสพข้อมูลข่าวสารการระบาดโควิด 19 มากมายหลายช่องทาง จนอาจทำให้เกิดอาการเครียดหรือคิดมากโดยไม่รู้ตัว เกิดอาการตื่นตระหนก หวาดกลัว วิตก กังวล เหงา เบื่อ ไม่ได้พบปะพูดคุยสังสรรค์เหมือนช่วงสถานการณ์ปกติ หากไม่รู้จักบริหารสุขภาพจิตแล้ว อาจทำให้เป็นโรคเครียด ย้ำคิดย้ำทำ เกิดอาการพารานอยด์ได้ วิธีการบริหารสุขภาพจิตสามารถทำได้ดังนี้

1. ยึดกิจวัตรเดิมที่เคยทำหลายคนที่ตื่นเช้าไปทำงาน เมื่อต้องทำงานอยู่ที่บ้านอยากให้ปฏิบัติตัวตามแบบเดิมที่เคยทำ ตื่นเช้าในเวลาเดิม กินอาหารในเวลาเดิมกับที่ออกไปทำงาน และหากมีเวลาว่างลองหากิจกรรมงานอดิเรกทำ เช่น รดน้ำต้นไม้ ทำอาหารกินเอง หรืออกกำลังกายเบาๆเป็นต้น ก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น จิตใจแจ่มใส สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย

2. อย่าปล่อยให้ตัวเองเบื่อหน่าย การไม่ปล่อยให้จิตใจตัวเองห่อเหี่ยว คิดมาก หรือฟุ้งซ่าน ให้หา

กิจกรรมที่ชอบทำ หรือลองหากิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน หรือลองปรับเปลี่ยนจัดมุมทำงานใหม่ จัดห้องนอนใหม่ ลุกเดินไปพักผ่อน เคลื่อนไหวร่างกายเบาๆบริเวณโต๊ะทำงาน หรือเปิดเพลงสบายๆฟัง

เปิดมุมมองใหม่ หางานอดิเรกทำ เช่น ขายของออนไลน์ ก็จะช่วยให้จิตใจเราไม่ฟุ้งซ่าน และอารมณ์ดีขึ้น

3. ติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็น อาจลดเวลาการเสพข่าวสารให้น้อยลง อาจเหลือเพียงวันละครั้ง

ลดการเล่นโซเชียลมีเดีย ไม่เสพข่าวสารที่สร้างความวิตกกังวล หรือทำให้เสียสุขภาพจิต และเลือกเสพข่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานจากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ เป็นต้น

4. ออกไปรับแสงแดดรอบๆบริเวณบ้าน เพราะการที่ร่างกายไม่ได้รับแสงแดดจะขาดการกระตุ้น ทำให้เมลาโทนินหลั่งช้า ส่งผลให้เกิดปัญหาการนอนไม่หลับและความจำได้ ซึ่งแสงแดดที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.00 น. หรือตอนเย็นหลัง 16.00น. ให้ร่างกายได้รับแสงแดดประมาณ 5-15 นาทีต่อวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายให้ร่างกายมีฮอร์โมน และวิตามินที่เหมาะสม ทำให้การนอนมีประสิทธิภาพหลับสนิทยืนยาว คลายเครียด และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

แม้สถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่อย่าปล่อยให้ร่างกายต้องซึมเศร้า หรือหดหู่ไปกับเหตุการณ์ข่าวสาร ที่อาจบั่นทอนจิตใจ  ลองปรับกิจวัตร เปลี่ยนกิจกรรม หรือหางานอดิเรกทำในช่วงที่ทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งอาจทำให้ค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัว ที่สามารถสร้างความสุข หรือสร้างรายได้ให้อีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthydee.moph.go.th/