โรคหัวใจ เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต โดยจะค่อย ๆ สะสมทีละนิดและทวีความรุนแรง จนเกิดอาการเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง สาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจมาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีปริมาณแป้ง หรือน้ำตาลมากเกินไป หากกินเข้าไปมาก ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันที่มีชื่อว่า "ไตรกลีเซอไรด์" เมื่อเกิดไขมันสะสมทำให้เป็นโรคอ้วนและเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ การเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์และมีสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเราสามารถเลือกกินอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ ดังนี้
1. ข้าวกล้องกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว เพราะข้าวกล้องมีกากใยสูงกว่า
2. ปลากินปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เช่น ปลาช่อน ปลายี่สก ปลาดุก
3. ลดการกินเนื้อแดง และเนื้อสัตว์แปรรูปเช่น ไส้กรอก แฮม
4. ผักใบเขียวเพิ่มการกินผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง
5. ผลไม้เลือกกินผลไม้ที่มีกากใยสูง หวานน้อย เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แอปเปิล
6. เลี่ยงกะทิ น้ำเชื่อมเลี่ยงอาหารที่มีกะทิ หรือน้ำเชื่อมเป็นส่วนประกอบ โดยให้ตักกินแต่เนื้อเหลือน้ำไว้ ส่วนขนมหน้ากะทิต่าง ๆ เช่น ตะโก้ ขนมครก ควรกินแต่น้อย ไม่ควรกินบ่อยเพราะน้ำเชื่อม น้ำกะทิ ให้พลังงานสูง มีน้ำตาลมาก
7. ข้าวเหนียว กินแต่พอดี ข้าวเหนียวให้พลังงานมากกว่าข้าวสวย 2-3 เท่า โดยเฉพาะข้าวเหนียวที่มีกะทิและน้ำตาล พลังงานก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก
8. ถั่วและงา กินให้บ่อย ถั่วและงามีโปรตีนไขมันชนิดดี ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจได้
9. ของว่างที่มีผัก กินของว่างที่มีผักเป็นส่วนประกอบ เช่น เมี่ยงคำ แหนมเนือง เพราะให้พลังงานต่ำ แถมได้รับสารอาหารจากพืชผักสมุนไพรด้วย
10. ลด ละ เลิก อาหารหวานจัด เค็มจัด มันจัด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
นอกจากการปรับพฤติกรรมการกิน การเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจแล้ว ควรดูแลตนเองด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ควบคู่กันไปด้วย ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายและสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ปลอดภัยต่อหัวใจ)
: กรมสุขภาพจิต(เผยสถิติน่าตกใจคนไทยป่วยโรคหัวใจ 432,943 คนต่อปี นักโภชนบำบัดชี้
นมถั่วเหลืองช่วยลดปัจจัยเสี่ยง)
: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) (อาหารบำรุง"หัวใจ")
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthydee.moph.go.th/